รายการโหนกระแสวันที่ 8 มี.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” กรณีที่ถูก “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” แม่ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ส่งจดหมายขออย่ายุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโม และถูก “ต่อย ดายศ เดชจบ” พี่ชายแตงโม เทแบบไม่ทันตั้งตัวหลังเข้ามาขอให้ทนายตั้มช่วยสืบหาความจริงเรื่องน้องสาว
ทำไมตายังดูแดงๆ?
“ร้องไห้มั้งครับ(หัวเราะ)”
เริ่มคดีแตงโม ทนายเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ยังไง
“เริ่มจากมาออกรายการนี้ พอกลับไปเจอลูกสาววาดรูปเอาไว้ ตอนนั้นเข้าใจว่าลูกสาววาดรูปน้องแตงโม ก็ไม่ได้หลับทั้งคืน ตอนเช้าเลยออกไปดูเรือ วิเคราะห์ว่าบาดแผลเกิดจากอะไรกันแน่ ผมไม่เชื่อว่าเป็นใบพัด ตอนนั้นเลยเป็นข่าวครึกโครม ผมก็ได้เข้ามาเกี่ยวในคดีนี้แล้ว แต่ผมก็ประกาศตั้งแต่ต้นว่าที่ผมเข้าไปในคดี ผมต้องการช่วยน้องแตงโมเท่านั้น”
ครั้งแรกที่ลงพื้นที่ คุณไปดูเรือลำที่น้องแตงโมนั่งไป หลังคุณไปดู เขาเก็บเรือไปเลย?
“เก็บเรือหายไปเลยครับ”
คุณไปยุ่งอะไร ไปเกี่ยวอะไรกับคุณ เขาเอาเรือกลับเลย?
“ผมไปวิเคราะห์ ไม่เชื่อว่าเป็นใบพัดเรือ ผมก็เดินดูรอบๆ เรือ สรุปว่าที่เป็นไปได้มากที่สุดคือตัวฟินน์ใต้ท้อง เป็นจุดเริ่มต้นเลย”
พอหลังจากนั้น มันเริ่มมีประเด็นเข้ามา ว่าทนายตั้มเริ่มเข้ามาดูเรื่องนี้ เหมือนตามเรื่องนี้ แล้วบอกว่ามีข้อมูลบางอย่าง?
“จริงๆ มีข้อมูลหลายอย่างที่น่าสงสัยในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะจุดตก หรือการที่ผู้ต้องหาบางคนให้การ หรือให้สัมภาษณ์ต่างๆ มันมีหลายอย่างที่ผมสงสัยอยู่”
เป็นข่าวครึกโครม ที่คุณเปิดว่ามีนายพล น. คนนึงที่เอาข้อมูลไปขาย ให้ใครก็ไม่รู้ มันคืออะไร?
“นายพล น. คนนี้ โดยนิสัยชอบส่งข้อมูลให้บุคคลภายนอก พอบุคคลภายนอกเขาก็เอาไปไลฟ์สดหรือทำอะไรก็แล้วแต่ ทำให้เขารู้ว่านี่คือวงใน พอรู้ว่าเป็นวงใน ก็จะมีทั้งพูดดีหรือเรียกตัว อย่างเคสนี้มีการไลฟ์สดแล้วมีการพูดว่าให้ทางปอมาคุยกับเขาสิ คุยแล้วยังไงต่อ ก็จะได้ต่อรองมีผลประโยชน์กัน”
คิดเองหรือเปล่า?
“ไม่ได้คิดเอง ไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว มันหลายครั้งแล้ว ไม่งั้นไม่มีทางหรอก ที่ข้อมูลสำคัญ ไม่ใช่ข้อมูลที่สื่อมวลชนต้องรู้นะ มันจะหลุดมาถึงบุคคลภายนอกเพื่อให้บุคคลภายนอกเอามาสร้างกระแส และเอาไปเรียกเงินเรียกทองได้ ไปได้ถึงขนาดนั้น ถ้าผมไม่มีแหล่งข่าวจะไม่ออกมาพูด ผมก็บอกทุกรายการและท้าเลย นายพล น. ถ้าคิดว่าเรื่องที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องจริงก็ให้ฟ้องผมเลย”
คุณมั่นใจมาก คุณใช้คำว่าเอาออกไปขาย อาจเป็นการเล่าสู่กันฟังหรือเปล่า?
“ไม่ใช่ครับ มันมีเรื่องผลประโยชน์อยู่ ถ้าเกิดว่าคนที่เอามาไลฟ์สดได้ประโยชน์มา ก็มีการจัดสรรแบ่งอยู่แล้ว คนไลฟ์สดเขาไม่มีอาชีพอะไรด้วย”
เริ่มเรื่องจริงๆ คุณอาจเป็นหนึ่งในทนายของทางปอด้วยซ้ำ?
“เขามาขอความเห็น เขามีทนายความอยู่ก่อนแล้ว และเขาก็ทราบว่าเรื่องนี้ผมไม่สามารถมาเป็นทนายได้”
เคยไปเจอกันจริงๆ วันศุกร์ที่ 25?
“เจอครับ สัมภาษณ์ทุกครั้งก็ได้มีการบอกว่าเขามาหาผมจริงๆ ที่นักข่าวไปลงว่าร้านอาหารแถวราชพฤกษ์ ผมก็บอกอยู่แล้วว่านั่นคือผมเอง ไม่ต้องไปตามหาหรอก ผมไปกับคนขับรถ ขึ้นไปแค่คนเดียว ขึ้นไปคุยกับเขาได้ไม่นานก็ลงมา แล้วก็เจอกระติกข้างล่าง คุยกันสองสามคำแล้วผมก็กลับ”
วันนั้นเขาต้องการให้คุณทำอะไร?
“เขามาหาผม แค่ต้องการฟังความเห็นผมว่าถ้าเรื่องราวเป็นแบบนี้ ใครจะถูกดำเนินคดีบ้าง”
เรื่องราวเป็นยังไง?
“เดี๋ยวลงลึกเกินไป แต่ผมบอกว่าเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์แล้วกัน”
คุณให้ปากคำแล้ว ตร.เรียกคุณไปเลยว่าทางโน้นปรึกษาอะไรมาบ้าง เขาเล่าข้อเท็จจริงบางอย่างให้คุณฟัง?
“ใช่ครับ ผมก็ไปเล่าให้เจ้าหน้าที่ตร.ฟัง”
เขามาเล่าในโหนกระแสว่าเขาดื่มไวน์ไป 3 ขวด ยังคำนวณว่าไม่น่าเมา แต่กลายเป็นว่าเขาดื่มมากกว่านั้น กลายเป็น 6-7 ขวด เขาบอกคุณมั้ยวันนั้น?
“ผมไม่ได้คุยกันนาน เลยไม่ได้เจาะลึกเรื่องเมาหรือไม่เมายังไง แต่ก็พอทราบจากสื่อมวลชนว่ามีการดื่ม”
คุณตามคดีนี้อยู่ตลอด?
“ตามตลอด พอผมพูดเรื่องใบพัดเรือว่าไม่น่าใช่ สักพักก็มีข่าวจากตร.ว่ามันใช่ แต่คุณไทด์ เอกพันธ์ที่เขาทำกู้ภัยมา 10-20 ปี เขาบอกว่าแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน แต่เจ้าหน้าที่ตร.ก็ฟันว่าเป็นใบพัด ก็แย้งกับที่ผมคิด ถ้าไม่ใช่ใบพัด ฟินน์ใต้ท้องเรือ ก็ต้องไปหาจุดตกกันใหม่แล้ว”
ถ้าโดนฟินน์ได้ จุดตกต้องอยู่ตรงไหน?
“ก็จะอยู่ข้างๆ หรือข้างหน้า หรือวนกลับมา”
ณ วันนี้ข่าวออกมาเยอะแยะมากมาย มุมทนายตั้มมีวิธีการดูมั้ย ข่าวนี้ใช่ ข่าวนี้ไม่ใช่?
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระแสสังคมสนใจมาก ฉะนั้นจะมีคนมาวิเคราะห์มากมายไปหมด ผมว่าเจ้าหน้าที่เขาก็เก็บเอา อย่างสันธนะพูดเป็นประเด็น เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปสอบว่าพอมีมูลมั้ย นักวิเคราะห์เต็มไปหมด แต่ส่วนของผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมดูตามข้อเท็จจริงว่าเป็นไปได้หรือเปล่า ข้อมูลเชิงลึกผมก็ไม่มี บอกเลย ผมดูตามสภาพเรือ ความน่าจะเป็นอย่างที่ทุกคนคิด”
คุณชูวิทย์ได้ออกมาแถลง มีการพูดข้อมูลน่าสนใจ เชื่อมโยงไปถึงบุคคลท่านนึง ช. เหมือนบอกว่ามีที่ปรึกษา?
“เท่าที่ผมทราบ หลังเกิดเหตุมีการโทรปรึกษา ช. ผมฟังจากคุณหมาแก่มาเมื่อเช้า”
ช. หลายคนคิดถึงคุณชนม์สวัสดิ์?
“ไม่ใช่ เป็นชาดา”
ตอนนี้มีการพูดถึงบุคคล 2 ท่าน ท่านนึงคุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อีกท่านชาดา เพราะ ช. เหมือนกัน ความเชื่อมโยง คุณชนม์สวัสดิ์ หลายคนมองว่าโชว์รูปที่คุณปอเปิดอยู่ เป็นโชว์รูมที่เดียวกับคุณเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ปอไปเช่าโชว์รูมอันนี้ต่อจากคุณชนม์สวัสดิ์ ผมโทรหาคุณเอ๋เลย ผมอยากทราบ บอกพี่เอ๋ เอาข้อเท็จจริงเลยอยากรู้ว่าเป็นยังไง คุณเอ๋บอกว่าพี่พูดตรงๆ พี่ไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้หรอก แล้วให้พูดตรงๆ นะ พี่เองให้เขาเช่าจริง แต่เวลาเจอกันแทบไม่ได้คุยกัน รวมไปถึงผมก็ถามว่ากรณีที่เกิดขึ้น พี่มองมุมไหน คิดว่าแตงโมจะไปนั่งฉี่มั้ย เขาบอกว่าในฐานะที่เขาเป็นนักเล่นเรือด้วย ขับเรือตลอดเวลา เขาบอกว่าเป็นไปได้ยากมากที่คนๆ นึงจะเดินไปฉี่หลังเรือ เขาก็ไม่เชื่อมุมนี้ แต่ยังไงก็ฝากให้มาชี้แจงว่า ช. ไม่ใช่ชนม์สวัสดิ์ ส่วนที่คุณบอกว่าเป็นคุณชาดาต้องรออีกทางหนึ่ง ช.หลายคนมาก คนไปหากันว่าเป็นใคร?
“ความเชื่อมโยงของผมคือหลังเกิดเหตุ มีคนโทรเข้าไปปรึกษาใคร น่าจะเป็นอีก ช. นึง เอ่ยชื่อไปแล้ว ให้คำปรึกษาไม่เห็นผิดตรงไหน เขาจะได้ออกมาชี้แจงว่าใช่ไม่ใช่ยังไง แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่ ตร.น่าจะสอบไปแล้ว”
วันก่อนคุณมีโอกาสลงข้อความว่าคุณจะเปิดตัวละครสำคัญ สุดท้ายก็เป็นพี่ต่อย ดายศ คุณไปเชื่อมโยงกับพี่ต่อยได้ยังไง?
“มีวันนึง ผมนัดทานข้าวกับผู้ใหญ่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วปรากฏว่ามีสายโทรเข้ามา แนะนำตัวว่าเป็นพี่ชายน้องแตงโม ต้องการเจอผม ผมขอเป็นวันรุ่งขึ้นได้มั้ย เขาบอกช้าไปอยากเจอเลย ผมก็เลยงั้นผมอยู่ที่นี่ให้มาหาแล้วกัน ประมาณ 40 นาที เขาก็มาถึง เจอพี่ต่อย ภรรยาและลูกเขา ก็ถามว่าสรุปจะมาหาผมเรื่องอะไร ยังไง เขาบอกว่าเขาอยากตามหาความจริงเรื่องนี้ ผมก็ถามว่าอ้าว แล้วแม่ล่ะ สนิทกับแม่มั้ย เขาบอกส่วนนึง ผมก็ถามว่าแล้วจะมีปัญหากับแม่มั้ย ตอนนั้นเขาให้ความมั่นใจกับผมว่าคงไม่เป็นอะไร เขาต้องการมาเพราะอยากรู้สาเหตุว่าน้องเขาเสียชีวิตเพราะอะไร ผมก็ถามเขาว่าอยากมีส่วนในเงินหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่ต้องการเกี่ยวกับเรื่องเงินเลย เขาอยากรู้ว่าน้องเขาเสียชีวิตได้ยังไง ผมก็ชี้แจงเลยว่าผมไม่ใช่เป็นทนาย ถ้าจะมาร่วมหาความจริงก็ทำได้ พอคุยกันเสร็จ วันรุ่งขึ้นผมมีงานเยอะ ตัวพี่เขาก็ลางานไม่ได้ ไม่สามารถเปิดตัวได้ ต้องรอเวลาจนว่างกัน เมื่อวานก็เปิดตัว ก็อย่างที่รู้ พอเปิดตัวนักข่าวก็โทรกัน เขาก็โยนมาที่ผม ให้ผมสัมภาษณ์ ผมก็ลุยเต็มที่ ระหว่างนั้นจะมีปัญหาอะไรกับการโพสต์เกี่ยวกับแม่เขาตอบโต้กับผมอยู่ ผมก็คิดแล้วแหละว่าเดี๋ยวเขาจะไม่สบายใจหรือเปล่า”
คุณไปตอบโต้กับแม่เขา?
“เน้นเสียงจังเลย (หัวเราะ)”
ผมต้องเน้นให้คุณรู้สึก ให้คุณสะอึก ทุกเรื่องเกี่ยวกับคดี ท่านตร.ได้ดำเนินการโดยละเอียดรอบคอบอยู่แล้ว ท่านผู้บัญชาการดูแลให้คำแนะนำอยู่แล้ว คุณแม่มั่นใจในตร.สน.นนทบุรี ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวข้องเร่งคดีสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น ให้ท่านทำงานให้เต็มที่ คุณแม่วิงวอนท่านทนายษิทราว่าอย่ามาเกี่ยวข้องกับคดีน้อง ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น คุณแม่ไม่ได้จ้างทนายษิทราใดๆ ทั้งสิ้น?
“ตอนแรกผมอ่านแล้วเฉยๆ แต่พอคุณหนุ่มมาอ่านให้ฟัง ผมช้ำในใจยังไงก็ไม่รู้”
ผมอ่านเหมือนกำลังพากย์หนัง ไม่ได้ปั่นนะ คุณจะได้รู้ คุณจะได้ไม่ต้องไปยุ่ง?
“จริงๆ ผมรู้ที่มาของหนังสือนี้ เอาง่ายๆ ใครอยากรู้ที่มาคือใคร ชมใครก่อนในนั้น ชมใครไม่รู้ อ่านกันเอาเอง ชมใครคนนั้น ที่มาทนายมาจากไหน พูดแค่นี้เลย”
หลังจากนั้นพี่ชายแตงโมปฏิเสธ?
“เขาเปลี่ยนใจ เขาให้เหตุผลเรื่องครอบครัว เพราะคุณแม่น่าจะเป็นลมด้วย เขากลัวคุณแม่จะเป็นอะไรไป เขาบอกว่าคุณแม่เป็นลม 3 ครั้ง หลังรู้ว่ามาหาผม จะให้ผมขอความเป็นธรรมให้แตงโม แม่เขาเชื่อมั่นในตร. คิดว่า ตร.มาแนวไหนก็ถูกใจแม่หมด พอพี่ดายศมาหาผมเขาก็เลยไม่พอใจเกิดการกระทบกระทั่งกัน ตอนแรกคุยกับพี่ดายศเขายังโอเคอยู่ ขอแค่ไม่พูดไม่สัมภาษณ์ แต่จะขอไปกับผม แต่พอกลับไปมีลุงมีญาติมาหาเขาที่บ้าน เขาไม่อยากให้มีเรื่องเหมือนแม่ทะเลาะลูก ครอบครัวไม่กลมเกลียว อยากให้ไปทิศทางเดียวกัน พี่ดายศก็รู้สึกเสียใจ ที่ไม่สามารถออกมาช่วยน้องได้ แต่เขาก็คงไม่อยากมีปัญหากับญาติๆ”
คุณเลยไปลงว่าเลือดข้นกว่าน้ำ แล้วดายศว่าไงอีกบ้าง?
“หลังเขาโทรมาบอก เขาก็ไม่ได้คุยกับผมอีก เขาให้ภรรยาคุยแทน ภรรยาบอกว่าพี่ดายศเสียใจ ที่เขาออกมาช่วยเหลือน้องไม่ได้ เขาไม่อยากมีปัญหากระทบกระทั่งกัน”
ไม่เข้าใจประเด็นนี้ อย่าหาว่าผม ส. นะ ทำไมล่ะ ในเมื่อเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ ทนายตั้มจะได้เดินอีกทางกับดายศ แม่ก็เดินกับทนายของแม่ จริงๆ คู่ขนานกันไป ทำได้มั้ย?
“จริงๆ ทำได้ จริงๆ หลายคนช่วงก็ยิ่งดีนะผมว่า แต่จากหนังสือที่เขาบอกทุกคนไม่ต้องยุ่ง ให้ทนายเขาเองดีกว่า”
เพราะอะไร?
“เขาอาจไม่อยากให้ความจริงปรากฏหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้”
ดูข่าวช่อง 8 เขามีการลงคำพูดของฝั่งแม่ที่ให้สัมภาษณ์ ในนี้คุณแม่พยายามบอกว่าไม่อยากให้คุณหมอพรทิพย์ผ่าน้องอีกแล้ว ซึ่งหมอพรทิพย์ว่าแกผ่าไม่ได้อยู่แล้ว?
“ใช่ครับ ผ่าไม่ได้เพราะเสียไปนานแล้ว ถ้ามาดูก็ดูภาพถ่าย”
สองเรื่องลูกต่อย ดายศ ที่บอกว่าต่อยไม่มีสิทธิ์ในเรื่องทรัพย์สินเรื่องแตงโมหรือเปล่า?
“เขาไม่เคยพูดเรื่องเงินเลย ผมไม่รู้ทำไมแม่คิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องนี้ พี่ต่อยมาคุยกับผมเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลย และตามสิทธิ์เป็นของคุณแม่ทั้งหมดไม่มีใครแย่งคุณแม่ได้ พอเห็นเขาพูดถึงหลายครั้ง แต่อย่างที่บอกไม่มีใครเอาของคุณแม่ได้เลย คุณแม่ใจเย็นๆ นิดนึง คุณแม่ได้หมดทุกอย่าง”
เขาบอกเขามีทนายคนเดียวพอใจอยู่แล้ว คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง?
“คุณแม่เขาพอใจอยู่แล้วครับ”
ล่าสุดฝั่งทนายกฤษณะ ทนายความคุณแม่ก็ออกให้ข้อมูลแล้ว บอกว่าการมายื่นเรื่องที่วุฒิสภาเพื่อทำให้ข้อสงสัยต่างๆ เกิดความกระจ่าง และร่วมสืบหาข้อเท็จจริง แม้ความหวังมีน้อย แต่ความยุติธรรมต้องมีในสังคม และยังย้ำว่าคดีนี้ในทางคุณแม่ภนิดา มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการแต่งตั้งทนายความ ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของคุณแม่ที่ต้องการให้ตนทำคดีแต่เพียงผู้เดียว แต่ตนเองเปิดกว้างให้ทนายความคนอื่นๆ เข้ามาร่วมค้นหาหลักฐานในฐานะที่ปรึกษาได้ และบอกว่าไม่ได้ปิดกั้น โดยเฉพาะกรณีที่คุณแม่มีหนังสือไม่ต้องการให้ทนายษิทราเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องเคารพสิทธิคุณแม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าตนเองจะมีอคติอะไร เพราะเป็นทนายความสถาบันเดียวกัน ทนายยังบอกว่าที่พี่ดายศถอนตัวเป็นผลจากคุณแม่ไปเคลียร์ใจกับคุณดายศแล้ว แต่ไม่ปิดกั้นทนายคุณสามารถไปเป็นที่ปรึกษาเขาได้ให้คำปรึกษาเขาได้เพราะคดีนี้จะได้ชัดเจนมากขึ้น เขาเองเป็นกาวใจระหว่างแม่กับดายศด้วย?
“ฟังที่พี่เขาให้สัมภาษณ์แล้ว ที่ปรึกษาๆ เพลงกอล์ฟ-ไมค์มาเลย แต่ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าผมไม่ได้ไปในฐานะทนายอะไรเลย ผมรู้จักกับน้องแตงโม ผมต้องการตามหาความจริง แต่ถ้าความรู้ที่ผมมี สามารถช่วยพี่ทนายของคุณแม่ได้ จะมาปรึกษาจริงๆ ก็ยินดี แต่ขอให้ตามหาความจริงด้วยใจจริงดีกว่า ถ้าอย่างนั้นผมก็ยินดี”
คุณก็ยังไม่จบ จะทำต่อไป?
“ทำต่อ ตอนแรกที่มาเรื่องนี้ ไม่ได้หวังจะให้ใครออกมา เพราะผมไม่รู้พี่เขาคิดยังไงตั้งแต่แรก ผมก็เดินของผม แต่พอวันนึงอยากมาเดินกับผม แล้วมาเทกัน ผมก็ยอมรับว่าเฟล จริงๆ วันนี้ก็ไม่อยากออกสื่อ อยากนอนคิดสักวันว่าจะทำยังไงต่อไปดี ก็คิดทบทวนว่าทำยังไงต่อไป”
เห็นว่าคุณมีจิ๊กซอว์อีก?
“ถึงแม้เรื่องนี้ แม่หรือพี่หรือญาติไม่อยากไปต่อแล้ว แต่มีอีกคนที่สามารถเดินต่อได้”
เห็นคุณโทรศัพท์กับใครบางคน?
“คนนี้ยังไม่ถือว่าใช่ แต่เขาให้กำลังใจ คนที่โทรหาผมคือญาติน้องแตงโมอีกฝ่าย ขอให้ผมสู้ต่อ สู้เพื่อหลานเขา เขาก็ให้กำลังใจ แต่เขาไม่อยากออกอะไรทั้งนั้น แต่เขาขอให้ผมสู้ต่อไปเพื่อแตงโม เป็นญาติแตงโมฝั่งพ่อ โทรมาบอกว่าให้กำลังใจ อย่าปล่อยคดีนี้ มีอีก 1 จิ๊กซอว์แต่ไม่อยากพูดออกไป ก็ให้เขาคิดไปเอง ให้ออกมาเองดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นกดดันเกินไป”
คิดว่าคดีแตงโมจะไปถึงจุดไหน ล่าสุดตร.จะแถลงเรื่อยๆ วันนี้บ่ายสองก็แถลงอีก?
“คงแถลงบ่อย เพราะไม่อยากให้ไขว้เขวไปมากกว่านี้”
อยากบอกอะไรกับแม่หรือพี่ดายศ?
“อย่างที่บอก ผมตั้งใจเดินเรื่องนี้คนเดียวอยู่แล้ว ผมเปรียบเปรยแล้วกัน เหมือนผมจะขึ้นภูเขาแล้วอุปสรรคค่อนข้างจะเยอะ ตอนแรกผมเตรียมเสื้อผ้า เตรียมอาหารมาจะเดินคนเดียว วันนึงมีเพื่อนมา บอกว่าเดี๋ยวไปด้วย ไม่ต้องเตรียมที่พัก เดี๋ยวเขาเตรียมเต็นท์ไปเอง เดินไปด้วยกัน พอนัดวันกำลังจะไป ปรากฎว่าเพื่อนถอยทัพ ความรู้สึกผมก็เป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวขอผมนั่งคิดก่อนว่าจะขึ้นเขายังไงต่อ”
อาหารที่คุณเปิดมาจะขึ้นเขา เป็นเล้งหรือเปล่า?
“(หัวเราะ) เมื่อเช้าทีมงานเตรียมเล้งให้ผมทาน แต่ผมบอกว่าผมไม่ทานเล้ง ผมขอเป็นอาหารเม็ด”
จริงๆ วันนี้นัดกับคุณดายศมาเรียกร้องความเป็นธรรมตรงนี้ แต่คดีพลิก คุณดายศถอนตัว ทนายก็มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น อยากพูดอะไรอีกมั้ย?
“ก็ฝากเอฟซีที่ติดตามคดีนี้ ขอให้ทุกคนช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไป เราไม่รู้หรอกว่าอนาคตตร.จะมีทิศทางไปทางไหน แต่ขอให้ทุกคนช่วยตรวจสอบ เพื่อให้ความจริงเรื่องนี้ปรากฏ”