“แรมโบ้” แจง ศบค. ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และยุบ ศบค.เป็นนโยบายของนายกฯประยุทธ์ที่ให้พิจารณาต่อเนื่องและยกเลิกเมื่อพร้อม แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ประกาศมาเพื่อสกัดกลุ่มเคลื่อนไหว ขอประชาชนเข้าใจการทำงานนายกฯประยุทธ์-รัฐบาล
24 กันยายน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติที่ประชุม ศบค. ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและยุบ ศบค. ว่าเป็นความตั้งใจของนายกฯประยุทธ์และรัฐบาลที่อยากให้ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และกลับมาใช้กฎหมายปกติ เพราะเห็นแล้วว่าปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศไทย ผู้ป่วยรายใหม่และแนวโน้มผู้เสียชีวิตลดลง
นอกจากนี้ทำให้ประชาชน ผู้ประกอบการ สามารถดำเนินชีวิตและค้าขายได้ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปรับให้ โควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังแล้ว รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและสาธารณสุขฝ่ายปกครองฝ่ายความมั่นคงสามารถนำมาตรการกฎหมายเข้าแก้ไขปัญหาได้ตามปกติ ดังนั้นจึงเห็นถึงห้วงเวลาความเหมาะสมที่จะยกเลิก พ.ร.ก.และยุบ ศบค.
“การยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินและยุบศบค. เป็นนโยบายของนายกฯประยุทธ์ที่ให้มีการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีความพร้อมทุกด้านก็ให้ยกเลิก เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าที่ผ่านมานายกฯประยุทธ์และรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 จนสามารถคลี่คลายได้ อีกทั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ประกาศขึ้นมาเพื่อสกัดกลุ่มการเมือง หรือนำมากดขี่ประชาชนตามที่มีการกล่าวหาไว้ แต่เป็นการนำมาเพื่อดูแลสถานการณ์โควิด-19 อย่างแท้จริง
จึงขอให้ประชาชนได้เข้าใจการทำงานของนายกฯประยุทธ์และรัฐบาลว่ามีความจริงใจ และให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ตามปกติแล้ว นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้นสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”
ดังนั้นตนจึงขอยันยันชัดเจนอีกครั้งว่าการยกเลิกพรก.และยุบ ศบค เป็นนโยบายของนายกฯให้ดำเนินการอยู่แล้วเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ความพร้อม ซึ่งนายกฯเคยให้สัมภาษณ์ตลอดมาว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะยุบ ศบค.และยกเลิก พรก. ในที่สุดก็เป็นไปตามคำมั่นสัญญาตามที่นายกฯเคยประกาศไว้ จึงขอให้เข้าในแนวทางการทำงานตามขั้นตอนของนายกและรัฐบาลด้วย” นายเสกสกล กล่าว