วันที่ 16 มี.ค. 2021 เว็บไซต์เคียวโดนิวส์ (Kyodo News) รายงานการประชุมร่วม ต่างประเทศ-กลาโหม ระหว่างรัฐมนตรีของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ณ กรุงโตเกียว โดยทั้งสองชาติแสดงความกังวลถึงกฎหมายใหม่ของจีนที่เปิดทางให้เรือลาดตระเวนชายฝั่งสามารถยิงเรือลำอื่นที่อยู่ในบริเวณหมู่เกาะเซนกากุ ในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออกได้
การเยือนญี่ปุ่นของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ นับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศของระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในยุคประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยทั้งคู่ได้เข้าร่วมในการประชุม 2+2 กับ โทชิมิทสึ โมเทกิ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น
การออกแถลงการณ์ร่วมของ 2 ประเทศที่เจาะจงไปยังจีนนับว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เป็นสัญญาณชัดเจนว่าทั้งคู่ได้เพิ่มระดับการเฝ้าระวังภัยคุกคามทางการทหารและทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากรัฐบาลปักกิ่ง
ตามแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังคงคัดค้านการกระทำจากฝ่ายเดียว ที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านสถานะ หรือรุกล้ำการปกครองของญี่ปุ่นในหมู่เกาะเหล่านี้ และสหรัฐฯ จะเข้ามาปกป้องญี่ปุ่นหากมีกรณีความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยอาศัยอำนาจตามหมวด 5 ของสนธิสัญญาที่ทั้งสองชาติทำไว้ตั้งแต่ปี 1960
นับตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา หลังจากที่จีนออกกฎหมายเกี่ยวกับชายฝั่ง จีนได้รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำญี่ปุ่นบ่อยครั้ง เพื่อพยายามแสดงความเป็นเจ้าของในพื้นที่ขัดแย้ง ซึ่งหมวด 5 ของสนธิสัญญาความมั่นคงของญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ระบุว่า หากมีการโจมตีด้วยอาวุธเกิดขึ้นในดินแดนภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ทั้งสองประเทศจะถือว่าเป็นภัยคุกคามร่วมกัน และจะดำเนินการภายใต้กรอบและกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากประเด็นเรื่องทะเลจีนตะวันออกแล้ว ทั้งสองชาติยังแสดงความกังวลต่อการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้ การละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและซินเจียง รวมไปถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ
หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่นแล้ว นายบลิงเคนและนายออสตินจะเดินทางไปยังกรุงโซล เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ต่อไป
จากนั้นในวันพฤหัสบดี ทั้งคู่มีกำหนดการเข้าพบกับ หยาง เจี๋ยฉือ จากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศจีน และ หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยจะจัดขึ้นที่รัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา นับเป็นการพบปะกันครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศในยุครัฐบาลไบเดน