วันนี้ (16 มีนาคม) เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, อดีตโฆษก กปปส., อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์, เลขานุการส่วนตัวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งค่าการเข้าถึงแบบสาธารณะ ระบุถึงการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถานที่แจ้งเกิดทางการเมืองและเป็นสมาชิกกว่าสิบปีว่า
ขอบคุณและขอกราบลาพรรคประชาธิปัตย์ ขอกราบขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสผมได้แจ้งเกิดทางการเมืองกับการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบเขตในกรุงเทพมหานคร กว่าสิบปีที่ผมได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ และได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางการเมือง ได้รู้จักกับผู้ใหญ่และพี่ๆ นักการเมืองมากมายหลายท่าน ที่คอยให้การสนับสนุน แนะนำ จนผมได้มีโอกาสเป็นผู้บริหารพรรคการเมือง ได้ทำงานการเมืองที่ผมรักอย่างเต็มความสามารถ ทั้งหมดคงเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีที่ผมจะจดจำไว้ตลอดไป
ขอบคุณท่านชวน หลีกภัย ที่คอยให้คำแนะนำดีๆ คอยสั่งสอน ส.ส. ทุกคนให้เป็นนักการเมืองที่ดี
ขอบคุณท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นทั้งรุ่นพี่ที่ออกซ์ฟอร์ด เป็นหัวหน้าที่ชักชวนผมเข้าพรรค เป็นนักการเมืองไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผมจนตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง
ขอบคุณลุงกำนันที่คอยสนับสนุนผมมาโดยตลอด แม้วันนี้ทางการเมืองจะเดินกันไปคนละเส้นทาง แต่ต่างก็มั่นใจในอุดมการณ์ของกันและกัน
ขอบคุณพี่ๆ ส.ส. เพื่อนสมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่คอยให้กำลังใจ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น แม้เวลาจะผ่านไปสิบกว่าปี แต่ยังคงทำให้ผมมีไฟ มีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ ที่จะทำงานการเมืองต่อไป
วันนี้ผมได้ยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตกราบลาจากพรรค แม้จะเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ผมขอคงไว้ซึ่งความเคารพ ความรักและผูกพัน เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ตลอดไปครับ
สำหรับ เอกนัฏ เข้าสู่แวดวงการเมืองด้วยการเป็นเลขานุการส่วนตัวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นบิดาบุญธรรม
ในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เอกนัฏ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 29 (เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองค้างพลู)) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเขตเดียวกันกับ วัชระ เพชรทอง ส.ส. เดิมของพรรค ที่ต้องเปลี่ยนไปลงแบบระบบบัญชีรายชื่อแทน และได้รับเลือกตั้งไปด้วยคะแนน 37,932 คะแนน โดยถือเป็น ส.ส. ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกตั้งมา
ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557เอกนัฏเป็นหนึ่งใน 9 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเข้าเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) ถือว่าเป็นแกนนำที่มีอายุน้อยที่สุด โดยมีบทบาทเป็นโฆษกของการชุมนุมชี้แจงข่าวสารและทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ต่อสื่อมวลชนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 จากการชุมนุมในครั้งนี้ ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย โดยเอกนัฏเป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 9
หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ เอกนัฏได้เข้าอุปสมบทที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ และเข้าจำพรรษาที่วัดป่าอัมพวัน จังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกับแกนนำและแนวร่วมคนอื่นๆ ด้วย