เอเจนซี – เว็บไซต์ข่าว นิเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกแรกในจีนและการกลับมาระบาดอีกครั้งของมันในกรุงปักกิ่งส่งผลให้ชาวจีนจำนวนมากแห่จองที่พักระยะยาวในไทย เนื่องจากชื่อเสียงของประเทศนี้ในการรับมือการแพร่ระบาด
บริษัท ไทยแลนด์ พริฟวิลิจ การ์ด ผู้ดูแลโครงการไทยแลนด์ อีลิท การ์ด พบการสมัครบริการเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ตัวแทนสามคน บอกกับ นิเคอิ เอเชียน รีวิว การ์ดดังกล่าวจะมอบวีซ่าที่ทำให้สามารถกลับเข้าประเทศซ้ำได้นานสุด 20 ปีและสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ
“เราได้รับข้อซักถามมากมายหลังจากจีนพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง” นับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน บ๊อบบี เหอ ตัวแทนของ อีลิท การ์ด ในกรุงเกทพฯ กล่าว
บ๊อบบีเผยว่า ในสัปดาห์นี้เขาได้รับใบสมัครถึง 7 ใบภายในวันเดียว เขากล่าวว่า “มันน่าแปลกที่บางคนไม่เคยมาประเทศไทยด้วยซ้ำ การแพร่ระบาดของโควิด-19 บีบให้ชาวจีนจำนวนมากมองหาบ้านหลังที่สองในต่างแดน”
ชาวเมืองปักกิ่งหลายพันคนพบว่าบ้านของพวกเขาอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์นับตั้งแต่พบการติดเชื้อภายในพื้นที่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน
ภายในสัปดาห์เดียว จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 158 ราย ผู้อาศัยในพื้นที่เสี่ยงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเมือง ขณะที่คนอื่นๆ ต้องแสดงผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเพื่อไปเยือนมณฑลอื่นๆ ของจีน
ในขณะเดียวกัน ไทยไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานาน 31 วันติดต่อกันแล้วจนถึงเมื่อวันพุธ (24) ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้พบผู้ติดเชื้อจนถึงตอนนี้เพียง 3,150 คนเท่านั้น
สมาชิกอีลิทการ์ดมีจำนวน 9,578 คนจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ชาวจีนครองสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ เอกสารภายในที่นิเคอิได้อ่าน เผย ชาวอังกฤษมีอยู่ 6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวญี่ปุ่นและชาวอเมริกันคิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 6,495 คนเมื่อสิ้นปี 2018
บริษัท ไทยแลนด์ พริฟวิลิจ การ์ด ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นของนิเคอิ ประธาน สมชัย สูงสว่าง บอกหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อเดือนเมษายนว่า บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะขายการ์ดให้ได้อีก 2,500 ใบ และคาดหวังรายได้ 1.5 พันล้านบาทสำหรับปี 2020
อีลิท การ์ด ซึ่งรัฐบาลริเริ่มในปี 2003 เพื่อดึงดูดผู้มีรายได้สูง จัดหาที่พักในไทยให้สมาชิกสามารถอยู่อาศัยนาน 5 ถึง 20 ปี อย่างไรก็ตาม ตัวแทน กล่าวว่า การสมัครไม่อาจเป็นไปได้ หากหนังสือเดินทางของผู้สมัครถูกรัฐบาลขึ้นบัญชีดำ
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ซึ่งสมาชิกต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5 แสนถึง 2 ล้านบาท ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถสมัครได้ แต่เมื่อได้เป็นสมาชิกแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น มีรถลีมูซีนมารับที่สนามบินฟรี ทางเดินพิเศษที่จุดตรวจคนเข้าเมือง และมีเจ้าหน้าที่รายงานตัวต่อทางการไทยให้ทุก 90 วัน รวมทั้งบริการสนามกอล์ฟและสปาฟรี