New1-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ จับมือไบโอไทย และ 686 องค์กรต้านสารพิษ ลั่นเตรียมแบน “พรรคประชาธิปัตย์ หาก “เฉลิมชัย” ยังเดินหน้าหนุนยกเลิกแบนพาราควอต เตือนเลือกตั้งครั้งหน้า ปชป.อาจสูญพันธุ์ “วิฑูรย์” ระบุอย่าทำให้ประชาชนหมดความไว้วางใจ ด้าน “สารี” ชี้เลยขั้นตอนของคณะกรรมการวัตถุอันตรายไปนานแล้ว ติงยังอยากให้ ปชป.มีที่ยืนในสังคม! ขณะที่ “เสี่ยหนู” สั่ง สธ.ร่วมต้าน
นับเป็นการต่อสู้อันยาวนานระหว่างเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ต้องการให้รัฐบาลประกาศแบนสารพิษที่ใช้ในการเกษตร กับบริษัทค้าสารพิษซึ่งร่วมกับกลุ่มทุนเกษตรเดินหน้าผลักดันให้มีการใช้สารพิษอย่างถูกกฎหมายต่อไป แม้จะมีประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมแบน “พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส” โดยให้ขึ้นบัญชีวัตถุอันตราย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา แต่ก็มีขบวนการดึงเรื่องจนคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติผ่อนผันการยกเลิกใช้สารพิษดังกล่าวออกไป ซึ่งระยะเวลาผ่อนผันได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา
แต่ล่าสุดทันทีที่สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยทำหนังสือถึง “นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ยกเลิกการแบนพาราควอต นายเฉลิมชัยก็รีบรับลูกโดยเตรียมจัดทำหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ทบทวนการยกเลิกใช้พาราควอต พร้อมทั้งแนบข้อมูลจากนักวิชาการที่ระบุว่าไม่พบสารพาราควอตตกค้างในสินค้าภายในประเทศไปด้วย ท่าทีเช่นนี้ของ รมว.เกษตรฯ ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลทำงานแบบไร้หลักเกณฑ์ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ในเมื่อคำสั่งยกเลิกใช้พาราควอตประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว แสดงว่าผ่านการพิจารณามาอย่างรอบด้านแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะผลักดันให้ยกเลิกการแบนพาราควอตอีก
แต่ล่าสุดทันทีที่สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยทำหนังสือถึง “นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ยกเลิกการแบนพาราควอต นายเฉลิมชัยก็รีบรับลูกโดยเตรียมจัดทำหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ทบทวนการยกเลิกใช้พาราควอต พร้อมทั้งแนบข้อมูลจากนักวิชาการที่ระบุว่าไม่พบสารพาราควอตตกค้างในสินค้าภายในประเทศไปด้วย ท่าทีเช่นนี้ของ รมว.เกษตรฯ ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลทำงานแบบไร้หลักเกณฑ์ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ในเมื่อคำสั่งยกเลิกใช้พาราควอตประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว แสดงว่าผ่านการพิจารณามาอย่างรอบด้านแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะผลักดันให้ยกเลิกการแบนพาราควอตอีก
ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชนต่างลุกขึ้นคัดค้านการ