เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #แอบรักสมัยเป็นพระ? ! สมปองสารภาพแอบรักบุ๋มมานานแล้ว เห็นแต่งsexy

#แอบรักสมัยเป็นพระ? ! สมปองสารภาพแอบรักบุ๋มมานานแล้ว เห็นแต่งsexy

6 January 2022
429   0

   อดีต 2 พส. “สมปอง” และ “ไพรวัลย์” ควงคู่เปิดใจครั้งแรกหลังสึกออกมา ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 พร้อมเปิดเบื้องลึก เบื้องหลังสาเหตุการสึก และเคลียร์ดราม่าว่าสึกออกมาเพื่อหาเงิน?

อัปเดตเรื่องทิดสมปองกับ “ศรีสุวรรณ” ที่ก่อนหน้านี้มีการท้าชก แต่ล่าสุดทิดสมปองออกมาขอโทษ มันเกิดอะไรขึ้น?

สมปอง : “พี่สาวดุ บอกว่าเด็กๆ ดูเยอะ เขาชอบที่แบบใจดี น่ารัก แจกตุ๊กตา พอมาเวย์แบบก้าวร้าว รุนแรงเด็กๆ ก็ไม่แฮปปี้ ก็มีคนคอมเมนต์มา ขออนุญาตเอ่ย พี่หนุ่มโทรมา ท่านเป็นอย่างนี้เหรอ ผมทราบก็ไม่เป็นนะ อาจจะด้วยอารมณ์อะไรก็ไม่รู้ ผมโนคอมเมนต์แล้วกัน โทรมาด้วยความเป็นห่วง แล้วก็หลากหลายด้วย ก็เลยขอโทษ ขออภัยจริงๆ พี่ศรีเขาเป็นปูชนียบุคคล เป็นปูด้วย แล้วชะนีด้วย คือ เป็นปูชนียบุคคล แต่ยังไงด้วยความเคารพ ขอโทษ ขอขมาที่ไม่น่ารัก และผมจะเอาลูกเพจเป็นเกณฑ์ อย่างเช่น การเมืองเขาไม่อยากให้ไป เราก็ไม่ไป คนก็ติดตามมากขึ้นต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนด้วย ยังไงก็ขอโทษพี่ศรีด้วย รักนะครับ”

เอาจริงๆ ส่วนนึงแฟนคลับเราเริ่มไม่ชอบหรือเปล่า เขามีภาพของเราตอนเป็นพระที่สนุกตลก พอออกมาปุ๊บจะท้าตี ท้าต่อย?

สมปอง : “มีผลมากครับ ถ้าคนด่าเรา เขาด่าเราอยู่แล้ว แต่ถ้าลูกเพจที่รักเรา แล้วด่าเรา ไม่ชอบเรา ผมว่ามันมีผลมาก ก็แคร์มากๆ ตอนที่อัดอั้นตันใจเขาก็เซฟเราทุกอย่าง แนะนำเรา มีแต่เรื่องดีๆ เป็นพระเรารับบริจาคไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีแต่เขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฐานะร่ำรวยอะไร ก็เอาลูกเพจเป็นเกณฑ์ครับ”

ในฝั่งเฟซบุ๊กของพี่ศรี เขาโพสต์ว่า อโหสิ ธรรมสอนให้เรามีสติ ได้อ่านแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?

สมปอง : “เพิ่งดูในรายการนี่แหละครับ แล้วทีมงานเล่าให้ฟังก็ขอบคุณครับ ถ้าเราทำได้ตามที่เราโพสต์ทั้งผมเองด้วย พี่ศรีด้วย ทุกท่านด้วย ผมว่าน่าจะเป็นอะไรที่ดี บางคนโพสต์ธรรมะบ่อยๆ จิตใจโสมมก็เยอะ ผมอยากให้โพสต์ธรรมะ จิตใจสูง แล้วก็ทำตัวสูงด้วยอะไรอย่างนี้ ผมก็น้อมรับ ผมอาจจะไม่ได้โพสต์ธรรมะบ่อย แต่ว่าธรรมะก็มีอยู่ในใจ ก็ขออภัยครับ”

ทางพี่ศรีมีคำว่าอโหสิแล้ว ทางทิดสมปองอโหสิไหม?

สมปอง : “ถ้ามีเวรกรรมคือกันก็อโหสิครับ รักพี่นะครับ รองจากแม่ผมผมก็รักพี่นะครับ”

ตอนแรกที่ตั้งใจไว้ คุณสมปองอยากจะสึกก่อน?

สมปอง : “จบปริญญาตรีเราก็อยากสึกครับ เพื่อน 80-90% ตอนนี้ดูอยู่ก็สึกครับ พอต่อโทมันก็จะสึก มันก็มีงานมีการพอดี มันมีจังหวะให้ได้อยู่ต่อมาเรื่อยๆ การสึกกับพระเป็นเรื่องปกติมากๆ อยู่ที่ว่ามันทำอะไรแล้วมันอยู่ต่อมากกว่า”

ไพรวัลย์ : ที่ผมสึกก่อนเพราะพร้อมก่อนครับ พร้อมก่อนก็ออกก่อน เบื่ออะไรหลายๆ อย่างด้วยตอนนั้น ก็อยากออกมา อยากสึกก็สึกครับผม คือหมายถึงใจพร้อมที่จะออกมาอยู่ข้างนอก”

สมปอง : “ถามว่าได้ยื้อน้องไหม มันก็ไม่เชิงหรอกครับ ถ้าน้องตัดสินใจแล้ว ไพรวัลย์เป็นคนที่เรียนเก่งมาก แล้วน้องก็มาอยู่จุดนี้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นน้องมีความมั่นใจ ไม่ใช่ไม่ฟังคนอื่น แต่ว่าเขามีวันนี้ด้วยตัวเขาเองครับ แล้วเราก็จะบอกได้ประมาณนึง เวลาใครเป็นห่วงเขาจะไม่กล้าบอกไพรวัลย์ ผมจะเป็นคนบอก ไพรวัลย์เขาจะมีประโยคนี้ว่า ผมเข้าใจนะอาจารย์แต่ผมมีวันนี้ได้เพราะตัวผมเอง ผมขอตัดสินใจเอง ฤกษ์ยามเขาก็ไม่ดู แต่ในขณะที่ผมดู”

พี่สมปองยื้อน้องไพรวัลย์ แต่เวลาพี่สมปองสึกน้องไพรวัลย์ก็ยื้อเหมือนกันไม่อยากให้สึก ยังไง?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ มันก็รู้สึกเสียดายนะครับผม ถ้าท่านอยู่ได้เราก็อยากให้ท่านอยู่ เพราะว่าท่านอยู่เราก็ยังทำงานร่วมกันได้ในเชิงธรรมะ ท่านก็ไปเวย์ของพระ แล้วเราก็ช่วยเสริม เป็นลูกศิษย์ที่มันแก่นๆทะเล้น ก็ดูน่ารักดี”

ตอนที่ทิดสมปองจะสึก ในใจเราอยากสึกและพร้อมหรือยัง เท่าที่ได้ยินมาตอนนั้นยังไม่ค่อยอยากสึกเท่าไหร่?

สมปอง : ตอนที่สึกไม่พร้อมเลยครับ จริงๆ ปลายปี 66 ครับ ฤกษ์ยามสมเด็จท่านก็บอกว่าดีด้วย แต่ทีนี้ด้วยอะไรหลายๆอย่างก็เลยรู้สึกว่า ช้าเร็วก็ต้องออก จังหวะนี้ออกก็ได้ ถามว่าเสียดายไหม น้องไม่เสียดาย แต่ผมเสียดาย ทุกครั้งที่จะสึกผมจะจี้ดๆ ที่ใจ มันเป็นยังไงน้า พ่อ แม่ จะว่ายังไง สังคมจะว่ายังไง โดนเกลียดไปครึ่งประเทศไหม จนมาเจอเพลงเขา ที่เขาไปฟีดเจอริ่งเพลง ที่เป็นคำพูดแล้วเขาเอาไปใส่ในเพลง แบบทนเพื่ออะไรก่อน เราไม่ได้เป็นหิน หินมันแข็งเกร่ง แต่เราเป็นคน เราไม่ได้แข็งเกร่ง เราจะมาทนเพื่อคนอื่น อย่าหาทำ คือเรารู้สึกว่าใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น บางคนเป็นLGBTQ+ จะมีแฟน กลัวพ่อแม่เสียใจ กลัวครูว่า กลัวเพื่อนแซว กลัวๆ แฟนฝรั่งที่เป็นผู้ชายด้วยกันบอกว่า อะไรคือการอยู่เพื่อคนอื่น ผมนึกไปถึงเรื่องนั้นเลยครับ น่าจะเป็นรายการของแกรมมี่นี่แหละ ก็รู้สึกว่าใช่นะ เราห่วงคนนั้นคนนี้มากมาย เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย”

รู้สึกยังไง ไม่น่าเชื่อว่าเพลงของเราทำให้เขาสึกได้?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ คงไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าอาจารย์สมปองท่านไม่อยากสึกจริงๆ ท่านคงไม่สึกหรอกครับ นี่แค่ส่วนหนึ่งที่มันไปเสริมความคิดอะไรบางอย่างของท่าน มันทำให้ท่านกล้าหาญที่จะออกมาเฉยๆ แค่นั้นแหละ แต่ถ้าท่านมีใจที่จะครองผ้าเหลืองอยู่ท่านก็น่าจะอยู่ต่อครับ”

รู้สึกยังไง ไม่น่าเชื่อว่าเพลงของเราทำให้เขาสึกได้?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ คงไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าอาจารย์สมปองท่านไม่อยากสึกจริงๆ ท่านคงไม่สึกหรอกครับ นี่แค่ส่วนหนึ่งที่มันไปเสริมความคิดอะไรบางอย่างของท่าน มันทำให้ท่านกล้าหาญที่จะออกมาเฉยๆ แค่นั้นแหละ แต่ถ้าท่านมีใจที่จะครองผ้าเหลืองอยู่ท่านก็น่าจะอยู่ต่อครับ”

แสดงว่าอันนี้คือจุดพีคที่สุดเลยที่ทำให้ทิดสมปองสึก?

สมปอง : ไม่หรอก ที่ไพรวัลย์พูดมันนิดเดียว ประมาณ 0.01% ด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แม่ไม่สบายมานานแล้ว แต่ผมไม่เหมือนไพรวัลย์ ไพรวัลย์เขาลูกคนเดียว ผมลูก 7 คน ตอนนี้เหลือ 5 เสียไป 2 มีพี่สาวดูแล มีเพื่อนพี่สาวดูแล ผมก็ซัพพอร์ตอะไรอย่างนี้ ทีนี้มันก็เป็นอีกเหตุผลนึง 25% แล้วกัน อีกเหตุผลนึงเรารู้สึกว่าอยู่ในวงการนี้แถมมาเยอะ ผมว่าจะอยู่ปีเดียว นี่อยู่มาตั้ง 30 ปี ถ้าเป็นขายของนี่ ขาย 1 ชิ้น แถม 29 ชิ้นเลยนะ ผมก็เลยรู้สึกว่าก็ถึงเวลาแล้วไหม”

แต่มันก็จะมีอีกกลุ่มนึงออกมาบอกว่า ออกมาถึงเป็นพรีเซ็นเตอร์เลย รีวิวเลย อ้างเรื่องแม่ เรื่องความอึดอัด ที่จริงแล้วสึกออกมาเพื่อหาเงิน?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ จะสึกเพื่ออะไรผมว่าเป็นเรื่องของผมนะ แล้วยังไง สึกแล้วต้องเห็นผมต๊อกต๋อยไม่มีงานทำ ร้องไห้นู้นนี่นั่นเหรอ ผมว่าผมสึกมาขายของก็เรื่องของผม แล้วทำไมมันเดือดร้อนใคร”

สมปอง : “ผมไม่ตอบนักเลงแบบนั้นหรอกครับ ผมมีสัมมาคารวะครับ ผมเลิกไปเวย์นั้นแล้ว”

ไพรวัลย์ : “ขอตอนแรกที่พูดให้สัมภาษณ์สื่อครับ”

สมปอง : “ก็ต้องสึกไปหาเงินครับ ไม่งั้นคุณจะให้ผมเหรอครับ ผมจะสึกไปหา…มั้งครับ จังหวะนั้นก็ฮากันมาก คือผมไม่รู้จะตอบอะไรด้วยความรู้สึก คือมันไม่ได้คิดไว้ก่อนหรอกครับ ใครจะคิดว่าจะมีพรีเซ็นเตอร์รออยู่ มันมีแววตอนที่เราแบดเทินคู่กัน บางยี่ห้ออยากให้เรารีวิวมาก แต่ว่าเราก็รีวิวให้ไม่ได้ เราโดนว่า มีบ้างนิดเดียว ไม่ถึงขั้นจะยังชีพได้ด้วยซ้ำ ออกมาก็ยังลุ้นอยู่ ผมเจอข้อความนึงที่ว่า เขาเอาไพรวัลย์ เขาไม่เอาสมปอง เพราะว่าสมปองไม่แมชอายุเยอะ หน้าช้ำแล้ว ผมก็โอเค ถ้าไม่เอาผม 95% คือผู้บริโภค 5% คือผู้ผลิต โอเคงั้นผมเป็นผู้ผลิตก็ได้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะผลิตยังไง ผมไม่มีเงืนเลย สุดท้ายก็ค่อยๆ แซวๆ ให้เลขาหนึ่งคุยกับคนนั้น คนนี้ มันก็เริ่มเข้ามา เวลาผมคิดอะไร ผมจะคิดดัง พูดออกมา มันก็ออกไปผู้หลักผู้ใหญ่ได้ยิน นายทุนได้ยินก็เข้ามา ผมไม่มีเงินเลย ผมมีแต่ชื่อ หน้า ปาก ถ้าใครรีวิวผมก็จะบอกว่าทำงานเต็มที่ แต่ไม่การันตียอดขาย คือผมเพิ่งใช้ผลิตภัณฑ์คุณ แล้วจะให้การันตีได้ไง คุณรู้ผลิตภัณฑ์คุณมากกว่าผม ถ้าของคุณดีมันก็ต้องรันไปเอง แต่ผมอะเต็มที่ แต่ผมไม่การันตียอดขาย อย่ามาปรับผม อย่ามามีเงื่อนไข อย่าอะไรเยอะ ผมไม่มีปัญญาเสียค่าปรับคุณหรอกครับ”

จริงไหมมีภาพที่ไพรวัลย์เอาเงินไปให้คุณแม่?

ไพรวัลย์ : “จริงครับ เอาไปให้ที่โรงพยาบาลที่แม่พักฟื้นอยู่ แม่ไม่รู้ว่าเราจะเอาเงินมาให้เขา พอดีมีคนพูดเยอะไหนบอกว่าจะสึกมาดูแลแม่ ช่วงนั้นมีงานพอดี คิดว่าแม่อยู่ก็มีพี่ที่ดูแลอยู่ ก็ขอแม่ไปทำงาน แม่ก็ให้ไป ก็ได้เงินก้อนนั้นมา ประมาณ 6 หลัก”

เห็นว่าตั้งใจออกมาหาเงินรักษาคุณแม่ แต่ก็มีคนใจดีออกค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ให้ด้วย?

ไพรวัลย์ : “ไม่ทั้งหมดครับ มีลางส่วนที่เขาช่วยได้ แต่ว่าค่าเดินทาง ค่าที่พักอะไรอย่างนี้เราต้องจัดการเอง แล้วก็มียาบางตัวที่เราต้องเสียเงินจ่าย แม่เป็นมะเร็ง ค่ารักษาที่หมดไปแล้วตอนนี้ประมาณ 5-6 ล้านครับ คนที่มาช่วยก็ให้หลักล้าน

เขาเป็นพี่สาวที่นับถือมากครับ จริงๆ ครอบครัวผมเป็นหนี้เขา หมายถึงว่าเป็นหนี้ชีวิต แม่ได้รับการดูแล รักษาดี ในแบบที่ผมรู้สึกพึงพอใจ ก็เพราะพี่สาวคนนี้ครับ แม่ผมป่วยมา 2-3 ปีแล้วครับที่เริ่มรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งรังไข่ มดลูก”

คุณแม่ทราบว่าเราสึกออกมา ท่านว่ายังไงบ้าง?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ พยายามกล่อมแล้วก็คุยหลายครั้ง คุยแรกๆ แม่ไม่อยากให้สึก ไม่มีใครอยากให้สึกเลย ญาติพี่น้องก็ไม่อยากให้สึก พ่อ แม่ ก็ไม่อยากให้สึก อยากให้อยู่ แต่เรามีเหตุผลของเราที่เราอยากมา ท่านก็เคารพการตัดสินใจ ก็แล้วแต่เลย ถ้าตัดสินใจดีแล้ว พ่อไม่อยากให้สึกเลยครับ พ่อผมเป็นคนที่อยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็ก เวลาเขาเห็นลูกเขาอยู่ในผ้าเหลือง เขารู้สึกว่า เขาพอใจที่จะให้ลูกเป็นแบบนี้ อยู่กับวัดแบบนี้ เขาทำใจไม่ค่อยได้”

2 คนนี้มีอะไรที่คล้ายกันมาก แม่คุณสมปองก็ป่วยเหมือนกัน?

สมปอง : “ติดเตียง สโตรกครับ ตั้งแต่อายุ 69 ตอนนี้ 75 ปี ก็ 6 ปีแล้วครับ ตอนนั้นเส้นเลือดในสมองตีบ สโตรกมันมีเวลาอยู่ 4 ชั่วโมง จริงๆ แค่ 3 อีกชั่วโมงคือการรักษา แต่แม่นี่ปวดหัว 2 ทุ่ม ไปโรงพยาบาล 8 โมง”

คุณแม่ทั้ง 2 คนเกิดวันที่ 2 มกราคม เหมือนกัน แล้วสมปองเพิ่งมีโอกาสได้ไปกอด ไปหอมแม่ ในวาระ 30 ปี?

สมปอง : “เพราะว่าเราบวชเณร บวชพระมา เราก็กราบไม่ได้อยู่แล้ว เวลาผมเห็นพระ เณร ที่กราบพ่อ แม่ ผมรู้สึกว่าไม่ต้องขนาดนั้น กตัญญูด้วยวิธีอื่น เป็นตัวอย่างที่ดี แต่คนจะงงว่าศีล 227 กับ ศีล5 มันยังไงกันแน่ บางคนจะอ้างว่ากตัญญู ผมก็ไม่กล้ากราบครับ ฉะนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่กราบ กอด ผมเป็นพระก็เคยอุ้ม ก็เป็นข่าว อาจจะไม่เหมาะสมแต่ว่าอุ้มช่วยพี่สาวที่เขาปวดเอว ถ้าอุ้มไม่ใช่ครั้งแรก แต่ถ้ากราบนี่ครั้งแรกเลยครับ หอมนี่ก็ครั้งแรกครับ”

บรรยากาศความรู้สึกในวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?

สมปอง : “น้ำตาไหลเหมือนกันครับ คนจะว่าดรามา ตั้งแต่อายุ 40 ผมฟังอะไรซึ้งๆ ไม่ได้เลย น้ำตามาง่าย ก็พยายามเฉไฉเอาไว้ ก็กราบ กอด แล้วก็เลียนแบบน้องเยอะ น้องคุยทางให้ผมเยอะ อะไรไม่เหมาะผมจะดูน้องเป็นหลักครับ”

คุณไพรวัลย์เห็นบอกว่าสึกมา 1 เดือน หาเงินได้ 10 ล้าน จริงไหม?

ไพรวัลย์ : “ขออนุญาตฝากไปถึงคนที่บอก รู้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องจริง ขอบคุณนะครับ ถ้าเขาเอาเวลาไปยุ่งกับเรื่องตัวเอง ผมว่าชีวิตเขาเจริญกว่านี้ เอามาจากไหนก่อน 10 ล้าน ไม่มีความจริงเลยครับ ผมต้องทำงานอะไรครับถึงรวย 10 ล้าน ถามว่ามีรายได้ไหม มีครับ แต่ไม่ถึงหลักล้าน”

คุณสมปองเป็นสายเปย์ เปย์คุณไพรวัลย์หนักมาก เปย์เรื่องอะไร?

สมปอง : “ธุรกิจที่กำลังทำ มีผู้ใหญ่ใจดีมาทำ วันนี้ก็ติดต่อเยอะ ก็อะไรที่ไม่ตรงกับที่น้องรับจ้างรีวิวก็ให้น้องช่วยหน่อย เพราะว่าด้วยกระแสน้อง ก่อนสึก 2.6 ล้าน พอสึกมาคนตามในเพจ 3.2 ล้าน ติ๊กต๊อกเล่นแค่อาทิตย์เดียวแซงผม ผมเล่นมาปีครึ่ง 1.2 ล้าน น้องเล่นอาทิตย์เดียว 1.6 ล้าน”

ไพรวัลย์ : “แต่ก็ได้ผลนะ หลังจากที่อาจารย์สมปองสึกมา 3 ล้านแล้วเหมือนกัน”

สมปอง : “ใช่ๆ แปลกมากเลย ก่อนสึกผมมีอยู่ 1.9 ล้าน สึกมามี 3 ล้านแล้ว”

การที่แท็กทีมทำให้ภาพลักษณ์ของเราดีขึ้นไหม?

สมปอง : “ผมอยากจะบอกผู้จ้างรีวิว ถ้าเราแพ็กคู่ อันนี้ 3.3 ล้าน อันนี้ 3 ล้านแล้ว ก็ 6.3 ล้าน ก็น่าสนใจอยู่นะ ถ้างานเดี่ยวให้น้องเลย ถ้างานคู่มีกูด้วย”

จาก พส.พระสงฆ์ เปลี่ยนมาเป็น พส.เพื่อนสาวหรือเปล่าคุณไพรวัลย์?

ไพรวัลย์ : “จริงๆ ถ้าจะเป็นก็ได้นะ ทำไมต้องมีปัญหากับรสนิยมคนอื่น พระมหาสมปองยังเปลี่ยนเฟซเป็นแม่ปองได้เลย”

คิดอยากจะมีแฟนไหม?

ไพรวัลย์ : “ตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยครับ ขอโฟกัสที่งานก่อน ถามว่าเมื่อไหร่คิดจะมีแฟน คงว่างๆ ยังไม่สะดวกครับ ไม่มีสเป็คไม่ได้รู้สึกว่าเห็นใครแล้วนี่คือความสวย ความงาม (เพศไหน?)ไม่มีสักเพศเลยครับ

ฝั่งคุณสมปองเคยมีคำพูดหลุดออกมาจากปากพี่เลย มีภรรยาได้ มีแน่นอน?

สมปอง : “หิวมากครับ ผมใช้คำนี้ผมพูดเล่นนะ จริงๆ ต้องมีภรรยา ต้องมีหลานให้แม่อุ้ม คือแม่ก็ปลื้มหลานหลายคน แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมมีหลานให้แม่ ผมว่าแม่น่าจะปลื้มมากขึ้นไปอีกครับ ผมว่ามันก็เป็นความสุข จริงๆ 2 ปีนี้ผู้จัดการบอกว่าห้ามมีแฟน ไม่แต่งงาน 2 ปีนี้คงตั้งใจทำงาน ตอนนี้ 43 ถ้าตามผู้จัดการคือ 45 เลย แต่ก็มีคุยแซว ไม่รู้ว่าเอ่ยได้ไหม คุยมะนาว ศรศิลป์ คุยขำๆเห้ย…มะนาว เราจีบกันได้ไหม ทำเป็นจิ้นกันอะไรอย่างนี้ มะนาวก็สวนกลับมาว่า เดี๋ยวลูกเพจท่านจะมาตีกระบาลนะคะล่าสุดก็ไปที่สาวน้อยเพชรบ้านแพร อร อรดี เราก็เคยดูเขา บางทีแค่เพื่อนกัน อาจจะแบบจิ้นๆ ผมว่าอย่าคบกันเลยครับ กึ่งๆ เป็นเพื่อนกัน ผมว่ามันจะน่ารัก แต่ว่าผมก็ดูหนังหน้าตัวเองอยู่นะครับ”

ได้ข่าวว่าคุณสมปองเคยตกหลุมรัก บุ๋ม ปนัดดา จริงไหม?

สมปอง : “สวัสดีครับพี่บุ๋ม เคยจะจีบครับ ผมน่าจะหลุดคำว่าเทคแคร์นะ แต่ไม่น่าจะหลุดถึงขั้นคำว่าที่รัก แล้วพี่บุ๋มก็ตอบไลน์มาว่า หยอกนะเฟ้ย อะไรสักอย่าง”

จากนั้นทางทีมงานโฟนอินหา บุ๋ม ปนัดดา เพื่อสัมภาษณ์

บุ๋ม : “รู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้ว”

สมปอง : “8-8 มีครับ ตั้งแต่พี่สาวคนเล็กเสีย คือไปออกร้านชำยามเช้า 3 นางสาวไทย พี่บุ๋ม คุณนุ้ย แล้วก็คุณหมิง ชาลิสา ก็สนิทกับพี่บุ๋มคนเดียว มีเบอร์ ก็ได้คุย แล้วพี่สาวคนเล็กผมเสียด้วยอุบัติเหตุ พี่บุ๋มไปเดินแบบหรือไปงานที่โคราช ก็เลยลองชวนดู พี่บุ๋มก็ไป แกก็ไปนอนห้องที่พี่สาวผม ที่เสียนั่นแหละ ห้องน้ำก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บ้านกำลังก่อสร้าง ถมดินไว้ แล้วพี่บุ๋มก็ตื่นมาตี 5 อาบน้ำ บ้านนอกๆ เรา แล้วไปทำกับข้าว ผมเลยพาเขาไปทานข้าวเที่ยง นั่งคุยเจอเขาใส่สร้อยแบบเสาหลักเมือง จังหวัดใดไม่รู้ ก็ทัก แล้วพี่เขาก็ให้ แล้วชาวบ้าน แล้วชาวบ้านเขานินทา”

บุ๋มรู้มาก่อนใช่ไหมว่าคุณสมปองเขาชอบ เขาหลงรักเรา?

บุ๋ม : “ไม่กล้าคิด”

แล้วตอนนี้รู้สึกยังไง เขาเปิดใจบอกว่าเขาเคยชอบเรามาก?

บุ๋ม : “ก็ขอบคุณ ตอนนั้นด้วยท่าที แต่เราคิดว่าเขาปลื้มเรามากกว่า คิดในแง่บวกไว้ก่อน เพราะเขาใส่ผ้าเหลือง”

ถ้าสมมติอนาคตคุณบุ๋ม ปนัดดา โสด ถ้าเขาจีบว่าไง?

บุ๋ม : “ว่ากันอีกที”


สมปอง : “กินข้าวกันพี่ เราจะไปดินเหนียวกัน ก็อยากดินเนอร์ ทุกครั้งที่พี่บุ๋มเขามีแฟน ผมเคยเจอสามีของพี่บุ๋มไปบรรยาย เจอกันในห้องน้ำแล้วพี่เขาก็ทัก พอพี่บุ๋มมีข่าวกับใคร คบใคร มันก็เจ็บๆ อยู่เหมือนกัน”

ทำไมถึงต้องเป็นพี่บุ๋ม?

สมปอง : “อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเรามีเบอร์พี่บุ๋มคนเดียว”

บุ๋ม ปนัดดา ประทับใจอะไรในตัวน้องสมปอง?

บุ๋ม : “เขาเป็นคนที่จริงใจ พยายามสร้างสิ่งดีๆ ให้เด็กๆ ก็อยากจะบอกว่าขออนุโมทนา แล้วขอให้นำสิ่งที่ได้จากการเป็นพระสงฆ์นำมาสานต่อในชีวิตประจำวัน”

 สเปกไหม?
สมปอง : “ใช่หมดเลยครับ เพราะตามไอจี ตามอะไรพี่บุ๋ม ตอนนี้ก็ตามอยู่ครับ แล้วทุกครั้งที่เขาเซ็กซี่ เราก็ชอบ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราก็ไม่กล้ากดไลก์ตอนนั้นเป็นพระอยู่ครับ คนจะคิดว่าผมเป็นกะเทย เป็นอะไรอย่างนี้”

ตอนที่เป็นพระสงฆ์อยู่มีแอบมากดไลก์ไหม?

สมปอง : “ไม่น่าเผลอครับ เลขา ทีมงานจะดุครับ อย่าไปเผลอกดอะไร วางตัว อย่างตอนนี้ผมจะโกนหนวดก็ไม่ได้เพราะว่าขายของอยู่ ผมจะรู้แค่ว่าให้ผมทำอะไร ไปไหน ผมจะรู้แค่นี้ครับ พี่บุ๋มตกลงเราไปทานข้าวกันวันไหนพี่”

นอกจากจะชวนทานข้าว อยากบอกอะไรกับพี่บุ๋มบ้าง?

สมปอง : “ก็รักเหมือนเดิม สถานภาพผมว่ามันไม่จำเป็นต้องครอบครองหรอก รักก็คือรัก ประทับใจในความเป็นพี่บุ๋มในความชอบช่วยเหลือคน เลี้ยงเด็กๆ ส่งเด็กๆ เรียน เวลาพี่บุ๋มเขารักใคร ผมไม่อยสกเอ่ยชื่อ คือเขาจะถามว่าไปไหนๆ จริงๆ เราเจ็บนะเวลาเขาห่วงคนนั้น”

ถ้าคุณสมปองจีบจริงๆ ต้องเล่นกล้ามไหม?

สมปอง : “ผมจะเล่นกล้ามนะ 2 เดือนผมจะมีซิกแพคครับ”

บุ๋ม : “ถ้าได้ก็ดี”

ทำงานร่วมกันมีปัญหากันบ้างไหม?

ไพรวัลย์ : “ไม่มีนะครับ จริงๆ เมื่อกี้ที่ถามว่าใครดังกว่ากันไม่อยากให้นี่ด้วยซ้ำ เพราะผมรู้สึกว่าตัวผมเองที่มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะอาจารย์สมปอง ซึ่งท่านมีชื่อเสียงอยู่แล้ว”

ความในใจอยากจะบอกคุณสมปอง?

ไพรวัลย์ : “ยังเหมือนเดิมนะครับ หมายถึงว่าเคยเคารพนับถือยังไง ก็ยังเคารพนับถืออยู่ ไม่ว่าสถานภาพจะเปลี่ยนไป ก็อยู่ใน 2 สถานะ ยังเป็นทั้งลูกศิษย์และยังเป็นน้องคนเดิม”

สมปอง : “ก็คุยกันตรงๆ แบบพี่น้อง เขาจะชอบเรียกผมว่าอาจารย์ ผมจะชอบเรียกเขาว่าน้อง ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผลประโยชน์ คือถ้าผมได้ผลประโยชน์แล้วผมผิดใจกับเขา ผมขอใช้คำง่ายๆ กูเลือกมึงนะ กูไม่เลือกผลประโยชน์นะ ใครไม่ต้องมารอว่าเราจะทะเลาะกันวันไหน ยังไง เสี่ยมเรา ปั่นเราอย่างนี้ ไม่ครับ ผมว่าอยู่ๆ ก็มารักกันผมว่าเด็กคนนี้มันเจ๋ง ผมชอบตรงนี้”