รอยเตอร์ – ยอดขายไอโฟนของแอปเปิ้ล อิงค์ ในจีน ตกลง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในไตรมาส 4 ของปี 2018 ในขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนของ “หัวเว่ย” คู่แข่งจากท้องถิ่น เติบโตถึง 23% ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยอุตสาหกรรม IDC ที่เปิดเผยในวันจันทร์(11ก.พ.)
รายงานดังกล่าวเป็นการให้ตัวเลขที่ชัดเจนเป็นครั้งแรก ต่อขอบเขตความเสื่อมถอยในยอดขายของแอปเปิ้ลภายในชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกแห่งนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ทาง ทิม คุ๊ก ซีอีโอของแอปเปิ้ล ออกมายอมรับว่า จีน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทางบริษัทต้องปรับลดประมาณการยอดขายรายไตรมาสอย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยครั้งนักเมื่อเดือนที่แล้ว
ด้วยที่ แอปเปิ้ล ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนการส่งมอบไอโฟนในรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอีกแล้ว นั่นจึงหมายความว่าผลสำรวจและการตรวจสอบผ่านช่องทางต่างๆอย่างเช่นของ IDC จึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในยอดขายที่ชัดเจนที่สุดแล้ว
ตัวเลขในรายงานผลให้เห็นว่าการส่งมอบสมาร์ทโฟนของแอปเปิ้ลในไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 ลดลง 19.9% ในขณะที่ หัวเว่ย เติบโต 23.3% ซึ่งนั่นทำให้ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิ้ล ลดลงเหลือ 11.5% จากระดับ 12.9% ของหนึ่งปีก่อนหน้านี้
“นอกเหนือจากการอัพเกรดทั่วๆไปในปี 2018และเปลี่ยนแปลงภายนอกเล็กๆน้อยๆ ไม่มีนวัตกรรมสำคัญๆใดๆที่จะกระตุ้นให้พวกผู้ใช้เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่ราคาก็สูงขึ้นอย่างมาก” รายงานระบุ “สิ่งแวดล้อมระดับมหภาคที่รุนแรงในจีนและการจู่โจมจากผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของแบรนด์ภายในประเทศก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แอปเปิ้ลเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ”
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน รายงานอีกชิ้นจาก Counterpoint ซึ่งมีสำนักงานในฮ่องกง ยืนยันว่า แอปเปิ้ลประสบปัญหายอดขายตกอย่างรุนแรงในอินเดียเช่นกัน หนึ่งในตลาดเกิดใหม่ยักษ์ใหญ่ที่แอปเปิ้ลกำลังตะเกียกตะกายดิ้นแรนอย่างหนัก โดย Counterpoint ระบุว่ายอดขายไอโฟน ช่วงไตรมาส 4 ปีของ 2018 ในอินเดีย ลดลงจากหนึ่งปีก่อนหน้านี้ถึง 25%
Cr.mgronline
สำนักข่าววิหคนิวส์