สกู๊ปข่าว » #โควิดลามต่างจังหวัด ! 8 จังหวัดไม่รอด

#โควิดลามต่างจังหวัด ! 8 จังหวัดไม่รอด

5 April 2021
668   0

 วันนี้ (5 เม.ย.2564)  พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ COVID-19  ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 194 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 182 คน และติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 คน รวมสะสม 29,321 คน หายป่วยแล้ว 27,840 คน รักษาในโรงพยาบาล 1,386 คน เสียชีวิตคงที่ 95 คน

ทั่วโลกติดเชื้อ COVID- 19 จำนวน 131 ล้านคน อาการดีขึ้น 106 ล้านคน และเสียชีวิต 2.8 ล้านคน โดยสหรัฐฯ ยังป่วยสะสมมากสุด 31 ล้านคน แต่ผู้ป่วยใหม่เริ่มลดลง โดยเพิ่มขึ้นวันเดียว 36,983 คน ส่วนฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันเดียวถึง 60,000 คน ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 115 ของโลก

ผู้ป่วยใหม่วันนี้ (5 เม.ย.) กทม. พบผู้ติดเชื้อ 46 คน คิดเป็น 25.27% ส่วนใหญ่มาจากเคสสถานบันเทิง ขณะที่ จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อ 4 คน คิดเป็น 2.20% และจังหวัดอื่น ๆ ป่วยเพิ่มขึ้น 132 คน คิดเป็น 72.53% ส่วนใหญ่มาจาก จ.นราธิวาส

พบเด็ก 5 เดือนติดเชื้อใน กทม.

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้ผู้ติดเชื้ออายุน้อยที่สุดอยู่ที่ 5 เดือน สะท้อนให้เห็นว่ามีการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนในบ้าน ขณะที่สมุทรปราการ 9 คน และชลบุรี 7 คน ยังเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงอยู่ ส่วนสุพรรณบุรี พบ 1 คน มีประวัติไปล่องแพที่ จ.กาญจนบุรี ด้วย

จ.นนทบุรี 4 คน โดย 2 ใน 4 เชื่อมโยงสถานบันเทิงท่องหล่อ มีรายงานชัยภูมิด้วย ซึ่งติดเชื้อจากบุคลากรที่ทำงานสถานบริการพยาบาล ส่วนชุมพร 2 คน มีประวัติเชื่อมโยงสถานบันเทิงรัชดา ส่วนสมุทรสงคราม และสระแก้ว เชื่อมโยงสถานบันเทิงทองหล่อ ส่วนการคัดกรองเชิงรุกนราธิว่าพบ 93 คน เคสเรือนจำ

กทม. ชลบุรี นนทบุรี สมุทรสงคราม สระแก้ว ปทุมธานี เป็นกลุ่มก้อนสถานบันเทิงย่านทองหล่อและเอกมัย ชุมพร ก่อนหน้านี้แทบไม่เคยรายงานผู้ติดเชื้อ ก็ติดเชื้อจากผับรัชดา โดยสัปดาห์นี้จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อจึงลดเหลือ 9 จังหวัด

เรือนจำนราธิวาสสัมผัสเสี่ยงเกือบ 800 คน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรมควบคุมโรค รายงานเคสเรือนจำนราธิวาส ตรวจ 214 ตัวอย่าง พบผู้ติดเชื้อ 112 คน เป็นนักโทษ 88 คน เจ้าหน้าที่ 25 คน ในจำนวนนี้พยาบาล 1 คน แต่ยังมีสอบสวนโรคต่อเนื่อง เนื่องจากพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำ รวม 791 คน

เคสเรือนจำนราธิวาส คาดพยาบาลเป็นผู้ติดเชื้อคนแรก มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. โดยมีประวัติเข้าไปดูแลนักโทษตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. และเข้าไปกู้ชีพนักโทษ 29 มี.ค. และในแดนนั้นมีนักโทษที่มีอาการป่วยทางเดินหายใจวันที่ 25 มี.ค. จึงคาดว่า พยาบาลติดเชื้อตั้งแต่ 28 มี.ค.

พยาบาลคนดังกล่าวได้เข้าไปดูแลนักโทษพร้อมกับทีมพยาบาลคนอื่นด้วยจึงเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทั้งยังมีนักโทษจำนวนหนึ่งเดินทางไปประชุมวิชาการที่ จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย ซึ่งสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มก้อนเดียวกันอีก 6 คน

คลัตเตอร์สถานบันเทิง ติดโควิดกระจายหลายจังหวัด

ส่วนเคสสถานบันเทิงใน กทม.และปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อ 71 คน กระจายในหลายจังหวัด ทั้ง กทม. นครปฐม ปทุมธานี เลย ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสงคราม สระแก้ว และชุมพร โดยกรมควบคุมโรคชี้สถานบันเทิงระบายอากาศไม่ดี ใกล้ชิด ไอจาม ไม่สวมหน้ากาก ใช้จาน ช้อน แก้วเดียวกัน เป็นปัจจัยเสี่ยงแพร่เชื้อ

ขณะที่พฤติกรรมของคนไปสถานบันเทิงมักจะไม่ได้ไปเพียงที่เดียว และมีการข้ามจังหวัดในพื้นที่ใกล้ ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในหลายจังหวัด

ชง 3 มาตรการยกระดับคุมโควิดสถานบันเทิง

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้ ศบค.ชุดเล็ก จึงเสนอมาตรการ 3 ระดับ คือ 1.หากพบสถานบันเทิงมีผู้ติดเชื้อ สถานบริการนั้นต้องปิดทันที เพื่อระมัดระวังควบคุมโรคสูงสุดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

2.หากพบสถานบันเทิงมีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นโซน มากกว่า 1 แห่ง เช่น ทองหล่อทั้งโซน ต้องปิดทั้งโซน และ 3.หากพบการแพร่กระจายเชื้อไปหลายพื้นที่ในจังหวัด ผู้ว่าฯ กทม. หรือ ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด สามารถสั่งปิดสถานบันเทิงทั้งหมดได้

ส่วนร้านอาหาร แม้ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน แต่ ศบค.ฝากเน้นย้ำร้านอาหาร หรือพื้นที่ชุมนุม ขอให้เฝ้าระวังมาตรการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์

เช็กผ่อนคลายมาตรการ 3 ระยะ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กำหนดความรับผิดชอบส่วนราชการต่าง ๆ ในการกำกับดูแลการควบคุมโรค ซึ่งการกำหนดมาตรการเพื่อทยอยผ่อนคลายมาตรการ 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. ระยะ 2 คือ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

สธ.จะกำหนดการป้องกัน รักษา และการกระจายวัคซีน ส่วนกระทรวงอื่น ๆ อย่าง กระทรวงคมนาคม ต้องดูแลสถานีขนส่งและขนส่งทุกประเภท กระทรวงศึกษาต้องป้องกันการระบาดในสถานศึกษา กระทรวงอุตสาหกรรมและแรงงานต้องดูแลการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว และที่พักคนงาน การจัดหาวัคซีนให้กลุ่มแรงงาน ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการระบาด

เทศกาลสงกรานต์ ศบค.ใช้คำว่ามั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ห่วงใย 3 ส่วน คือ การเดินทาง ระหว่างเดินทางที่อาจมีการแออัด 2 คือ การจัดกิจกรรม และ 3 นักท่องเที่ยวที่ขาดความระมัดระวังในการท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ