เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ว่า ที่ผ่านมาสมุนไพรไทยขาดการกระตุ้นสนับสนุนจากภาครัฐ จากนี้จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่ใช่กรมโบราณ หรือกรมเล็กๆ ที่ผู้บริหารคิดว่ามาแล้วไม่สำคัญ ไม่ใช่ยุคนี้ คนมาบริหารกรมนี้ รัฐมนตรีและปลัดร่วมหารือแต่งตั้งดูแล้วว่า สามารถผลักดันให้คนไทยลืมตาอ้าปากด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ในประเทศและในธรรมชาติเรา ต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลที่จะสร้างผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงสุด ตลาดกัญชากัญชงอย่างเดียว มูลค่าเป็นแสนๆ ล้านบาท เราเอามาแค่ 10-20% ของมาร์เก็ตแชร์ เกษตรกรไทย ผู้ประกอบการไทยก็เติบโตได้
นายอนุทินกล่าวว่า อย่าคิดว่ากัญชาเพิ่งปลดล็อกจากยาเสพติดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เริ่มมาตั้งแต่ ก.พ. 2562 เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัย และพัฒนา ก่อนตนมาเป็นรัฐมนตรี การที่บอกว่ารัฐบาล ผู้บริหารชุดนี้ปลดล็อกกัญชาหุนหันพลันแล่น ฉุกละหุก ไม่รอบคอบ จึงไม่เป็นความจริง หาก 3 ปีกว่าทำแล้วไม่คืบหน้าคือ ด้อยประสิทธิภาพ แต่เรายกระดับการปลดล็อกหลายครั้งเรื่อยมา จนวันนี้ยกระดับสูงสุด คือ ปลดออกจากยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% ถ้าทำตามกฎกติกาก็ไม่มีทางเกิน กัญชาจะมีความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังออกกฎเกณฑ์ต่างๆ การบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์สุขภาพทางการแพทย์ ไม่เคยสนับสนุนสันทนาการหรือออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เราใช้เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย เครียด นอนไม่หลับ ประหยัดงบซื้อยาราคาแพง จึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของผู้เสียประโยชน์จากการใช้กัญชงกัญชา ไม่ต้องการให้กัญชงกัญชาเกิดขึ้นในไทย
นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ตนมาเดินก่อนเริ่มงาน เพื่อมาพยายามเดินหาว่าในงานมีร้านใดที่ขายบุหรี่กัญชา หรือการนำสารสกัดจากกัญชาที่ออกฤทธิ์แรงมามวนเป็นบุหรี่ขายหรือไม่ แต่ก็เดินเป็นร้อยร้าน ยังไม่เห็นมีซักร้าน ส่วนกรณีที่ “หมาแก่” พิธีกรรายการข่าวกล่าวว่ารัฐบาล สธ. ทำนโยบายกัญชาแบบขาดความรับผิดชอบ ต้องบอกว่าผู้ที่เสนอเช่นนี้ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะไม่มีความรู้ไม่เข้าใจ และไม่พยายามหาความเข้าใจเพื่อนำสิ่งดีๆ ไปถ่ายทอดประชาชน แต่ สธ. แพทย์ แพทย์แผนไทย ผู้ประกอบการ เกษตรกร ชาวบ้าน วิสาหกิจชุมชน ต่างรู้คุณประโยชน์ของพืชกัญชาและนำส่วนที่ดีมาใช้มาผลิตเป็นสินค้า เกิดประโยชน์ทั้งสุขภาพและการสร้างรายได้
“คุณหมาแก่ปิดประโยชน์เหล่านี้แก่ประชาชน ดูถูกภูมิปัญญา และคนที่ตั้งใจทำกัญชากัญชงอย่างถูกกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนมองเห็นดวงดาว เราจะมองอย่างไร ผู้ชนะต้องมองสิ่งที่ไม่ดีเป็นสิ่งที่ดีมองปัญหาเป็นโอกาส มีแต่ผู้แพ้ มีปมด้อยเท่านั้น ที่มองสิ่งดีเป็นสิ่งไม่ดี หรือมองโอกาสเป็นปัญหา ยิ่งเป็นผู้แพ้ก็อย่าไปเที่ยวให้ความรู้ผิดๆ แก่ประชาชน อยากเชิญชวนทั้งหมาแก่หรือใครก็ตามที่ไม่เข้าใจ มาเดินงานนี้ ค่าบัตรผ่านประตูฟรี มาดูว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทย กัญชงกัญชา สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศอย่างไร เราต้องใจกว้าง ถ้าสปอร์ตแมนพอ เอากล้องมาด้วยมาสัมภาษณ์คนในงานว่าเห็นประโยชน์หรือรู้สึกอย่างไร เราเปิดถึงวันที่ 10 ก.ค. จัดรายการเช้าๆ เสร็จก็มาเปิดหูเปิดตา” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า เราพยายามแต่ประโยชน์ ไม่เกิดโทษประชาชน ส่วนคนที่ต้องการทำสิ่งดีให้เป็นโทษเป็นเวรเป็นกรรม ขอให้ทุกคนในงานที่เห็นประโยชน์มาเป็นแนวร่วม เพราะ สธ.พูดคนเดียวไม่พอ ประชาชนที่เชื่อมั่นในสมุนไพรกัญชงกัญชาต้องช่วยกันอธิบาย ทำความเข้าใจประชาชน และสังคมจะดีขึ้น ไม่แตกแยก ซ่งทุกคนในกระทรวง ทั้งตน ปลัดกระทรวง อธิบดี พร้อม ถ้ายังไม่เข้าใจก็เรียกไปชี้แจง ไปหารือ ไปดีเบตโต้วาทีด้วยความเข้าใจ ด้วยใจกว้าง พร้อมทุกเวทีพร้อมทุกเวลา อย่าพูดคนเดียว เพราะนั่นเป็นิส่งที่ลูกผู้ชายไม่ทำกัน
เมื่อถามถึงสื่อที่พยายามโจมตีเรื่องนโยบายกัญชา นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้พยายามโจมตี แต่โจมตีมาโดยตลอดด้วยความไม่เข้าใน ด้วยความเบาปัญญา ต้องมาหาความรู้ในงานนี้ อย่าใช้อวิชชา ความไม่รุ้ไม่เข้าใจแล้วไปถ่ายทอดสิ่งผิดๆ แก่คนทั้งประเทศ เป็นการกระทำที่เลวร้าย ไม่ปรารถนาดีไม่หวังดีต่อคนในประเทศ ต้องการให้มีการแตกแยก หมดโอกาสในการทำมาหากิน หมดโอกาสดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องต้องกล้ามาเที่ยวงานนี้และมาสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ มีใครอยากทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องบ้าง การที่กฎหมายอยู่ในชั้นกรรมาธิการเป็นประโยชน์ต่อคนไทย เพราะฟังทุกประเด็นใครห่วงใย กังวล มีข้อเสนอแนะ หรือแนวทางแก้ไข คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ก็เชิญมาทุกฝ่าย รับฟังทุกความเห็น จะเป็นกฎหมายที่ดีมาก ออกมาแล้วการควบคุมการใช้จะมีประสิทธฺภาพ เกิดแต่เรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพและทางการแพทย์
ถามว่าหากยังไม่หยุดโจมตีจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็เรื่องของเขา บอกแล้วว่าเป็นเวรเป็นกรรมของคนอยู่ในอวิชชาในความไม่รู้ เขามีแต่โง่แล้วอวดฉลาด แต่นี่โง่แล้วยังอวดโง่ ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เราไม่ทำอะไรไม่ได้
ถามว่าขณะนี้มีการใช้เพื่อสันทนาการระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายหลักออกมา นายอนุทินกล่าวว่า เรามีข้อกฎหมายออกประกาศกระทรวงต่างๆ ในการควบคุม การห้าม การใช้ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ มีบทลงโทษขั้นตอนกระบวนการ ทั้งจำทั้งปรับ เราไม่อยากใช้ถ้าไม่จำเป็น แต่ใครทำผิดก็อาจเสี่ยงถูกดำเนินคดี แล้วแต่เจ้าทุกข์ เจ้าพนักงานเป็นเห็นจะเร่งดำเนินการจับกุมหรือไม่ ถ้าไม่มีกฎหมาย ผู้อำนวยการเขตก็คงไม่สั่งห้ามขาย ถ้าขายแบบผิดประเภท ทำไมถึงทำได้ จึงอย่าบอกว่าไม่มีกฎหมาย ส่วนที่ถนนข้าวสารอยากเสนอเป็นฮับด้านกัญชานั้น ก็เป้นทางเลือหกใช้เพื่อประโยชน์สุขภาพ การเสริมสร้างรายได้ มีวิธีทำเยอะแยะ เช่น ขายชา ขนม ไอศกรีม อาหาร ผลิตภัณฑ์จากกัญชากัญชง น้ำมันสกัดที่สร้างโอเมกา 3 เอาไปทำอาหารก็ขายได้หมด ยิ่งขายที่ข้าวสารก็ยิ่งขายดี ไม่ใช่ปัญหา ส่วนเด็กที่อาจเข้าถึงกัญชากัญชงง่ายขึ้น ก็ต้องทำเหมือนเหล้า บุหรี่ ที่ไม่ให้เข้าถึงก่อนวัยอันควรเหมือนกัน
ถามว่าชมรมแพทย์ชนบทโจมตีเรื่องการปลดล็อกกัญชา นายอนุทินกล่าวว่า แสดงว่ายังไม่เข้าใจเพียงพอ ถ้าเข้าใจเจตนารมณ์ สธ.ก้จะไม่ทำเช่นนั้น ก้ต้องขอบคุณประธานชมรมแพทย์ชนบทก็เขียนมาว่า รพ.จะนะก็เดินหน้าเต็มที่เรื่องกัญชาทางการแพทย์
