ผอ.นำวัยรุ่นหัวร้อน กราบขอขมาปมด่าตำรวจ
19 ส.ค. 2021 14:24 น.
◻️ ภายหลังจากมีการนำเสนอคลิปวัยรุ่นหัวร้อน ขณะที่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับรถจักรยานยนต์ ข้อหาไม่มีเอกสารประจำรถ รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทำการปรับปรุงดัดแปลงสภาพรถไปจากเดิม ผิดกฎหมายจราจร ทำการเชิญตัวมาทำการเปลี่ยนเทียบปรับที่สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ โดยมี ร้อยตำรวจเอก อาภากร โสภา ร้อยเวรฯ ทำหน้าที่เจรจาเปลี่ยนเทียนปรับ แต่น้องวัยรุ่นกลับหัวร้อน อารมณ์เสีย ดุด่า ท้าทายเจ้าหนาที่ตำรวจมาถอดเสื้อต่อยกันไหม พร้อมใช้วาจาหยาบคายต่างๆ นานา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคาม 2564 แต่เพิ่งมีภาพออกสื่อไป
ช่วงสายของวันนี้ (19 สิงหาคม) ผอ.แปลก ภีระคำ ผู้อำนวยการสถานศึกษาในเขตอำเภอขุขันธ์ ได้นำตัวน้องวัยรุ่นหัวร้อนดังกล่าว เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะได้ให้เด็กได้กราบขอโทษขอขมาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดุด่าไป โดยมี พันตำรวจเอกพงศ์ทัศน์ พิมพ์เรือง ผู้กำกับฯ สภ.ขุขันธ์ ร่วมเป็นสักขีพยานในการกล่าวขอโทษ
ผอ.แปลก ภีระคำ ผู้อำนวยการสถานศึกษาฯ ได้กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาเพื่อนำน้องนักศึกษาของสถาบัน เข้ามาเพื่อขอขมาในความผิดที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับสถาบันการศึกษา ก็เป็นเครือข่ายกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งบางอย่างก็บอกไม่ได้ เพราะเด็กวัยรุ่นจะมีอารมณ์รุนแรง และชั่ววูบ หรือความคิดยังไม่ถึงขั้นมีความรับผิดชอบ ซึ่งได้เกิดเหตุตรงนี้ขึ้นมา แล้วก็มีคลิปหลุดออกไป ซึ่งก็กำลังสืบหาอยู่ว่าใครเป็นคนปล่อยคลิปตรงนี้ออกไป ซึ่งเด็กเองก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะถึงอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ซึ่งน้องวัยรุ่นพึ่งสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยได้เพียง 9 สัปดาห์ โรงเรียนก็ยังไม่ได้เปิดเทอมเรียนปกติตอนนี้ ก็เปิดเพียงเรียนออนไลน์ ซึ่งการเรียนออนไลน์ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ทางสถาบันการศึกษายังไม่ได้เจอเด็ก ยังไม่ได้จัดอบรมคุณธรรมจริยธรรม เพราะตามหลักเด็กที่เข้าใหม่จะต้องผ่านการอบรมทุกคน โดยจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทั้งคณะสงฆ์ เพื่อเข้าไปกล่อมเกลาจิตใจให้มีคุณธรรม ศีลธรรม ประจำสถาบันการศึกษา
ในส่วนของผู้ปกครองเมื่อคืน ผอ.ก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับครอบครัว พบว่าเด็กไม่มีพ่อ มีเพียงคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่ คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็กเรียนอยู่ในระดับประถมปีที่ 2 ช่วงนี้โควิดแม่ก็ตกงานไม่มีรายได้มาอาศัยอยู่บ้านตายาย ซึ่งก็ไม่มีรายได้เหมือนกัน แม้แต่ที่บ้านก็ยังขออาศัยเพื่อนบ้านเค้าอยู่ ในส่วนของเด็กจริงๆ แล้ว เด็กยังมีจิตใจที่ดีอยู่ขณะที่เรียนออนไลน์ก็ตั้งใจเรียนส่งงานตรงครบทุกวิชา วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 หลังจากส่งงานทางออนไลน์ครูเสร็จก็ขออนุญาตครูเข้าเมือง เพื่อจะมาตัดผมแต่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจับรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายเสียก่อน และก็ไม่มีเงินเสียค่าปรับด้วย เลยอารมณ์แตก พูดจาหยาบคายออกไปเช่นนั้น ก็ขอฝากผู้ใหญ่ทุกคนฝากสังคม ฝากผู้ปกครองช่วยกันดูแลเด็ก บางครั้งอาจจะกระทำการไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็หวังว่าสังคมจะให้อภัยและผู้ปกครองก็ต้องช่วยขัดเกลาลูกหลานทุกคนไม่ให้เป็นภาระมาที่สถาบันเพียงฝ่ายเดียว.
https://www.one31.net/news/detail/48609