เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ม่อนสายลม บ้านหนองหอยใหม่ หมู่ 11 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม พร้อมนายเอกรินทร์นทีไพรวัลย์ แกนนำวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม นายชัยชนะ สุขพิกุลปัญญา อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ในฐานะผู้บริหารม่อนสายลม แถลงข่าวกรณีปัญหามิจฉาชีพสร้างเพจที่พักปลอมหลอกลวงนักท่องเที่ยวพร้อมแอบอ้างเป็นผู้ประกอบการรับจองที่พักและร้านอาหาร บนม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงใหม่ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและสร้างความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก
นายวิชิต กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาพักที่ม่อนแจ่มจำนวนมาก ทำให้มีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่ง สร้างเฟซบุ๊กที่พักปลอมหลายแห่ง โดยแอบอ้างชื่อที่พัก และนำรูปที่พักไปใช้ เพื่อหลอกลวงนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการ และที่พักที่ถูกแอบอ้าง สร้างมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการ และที่พัก ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหาย ได้เข้าแจ้งควาดำเนินคดีที่ สภ.แม่ริม หลายรายแล้ว
นายเอกรินทร์ กล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างเพจที่พักปลอมให้เหมือนกับเพจจริงมากที่สุด โดยนำข้อมูลและรูปที่พักไปโพสต์สร้างความน่าเชื่อถือให้เพจปลอม มีการโปรโมตเพจเฟซบุ๊ก โดยใช้เงินโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามให้เข้าถึงเพจเป็นจำนวนมาก มีการทำงานเป็นกระบวนการเป็นทีม โดยใช้คนกลุ่มหนึ่ง กดไลก์เพจ แชร์เพจ คอมเมนต์โพสต์ และเขียนรีวิวเพจ เพื่อหลอกลวงนักท่องเที่ยว ให้โอนเงินชำระค่าห้องพักเข้าบัญชีกลุ่มดังกล่าว โดยใช้บัญชีหลายธนาคาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวกว่า 100 รายแล้ว รวมมูลค่าหลายแสนบาท โดยเฉพาะม่อนสายลม มีผู้เสียหายกว่า 30 -40 ราย รวมมูลค่า 300,000 บาท
“กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เห็นว่าการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เข้าข่ายกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานปลอมแปลงเพจเฟซบุ๊กไว้แล้ว ซึ่งมีผู้ประกอบเข้าแจ้งความดำเนินคดี รวม 5 รายแล้ว เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าคดีอย่างใด ถ้าปล่อยนานวันไว้ อาจมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นด้วย” นายเอกรินทร์ กล่าว
นายเอกรินทร์ กล่าวอีกว่า ช่วงปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวจองที่พักเต็มหมด จนถึงวันที่ 3 มกราคมนี้ หลังจากนั้นเริ่มเบาบางลง ซึ่งฤดูท่องเที่ยวม่อนแจ่ม ยาวไปจนถึงกุมภาพันธ์ เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ดอกไม้บานและวิถีชีวิตชาวม้ง หรือกลุ่มชาติพันธุ์ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการจองที่พัก สามารถสอบถามที่เพจที่พักได้โดยตรง พร้อมสอบถามพนักงานรับจองที่พัก และวิธีการโอนเงินชำระค่าทีพัก โดยแนบสลิปเป็นหลักฐานการจอง ซึ่งที่พักส่วนใหญ่รับชำระจองห้องพัก 50% ไม่ใช่โอนแบบ 100 % ที่สำคัญเพจที่พักจริง สังเกตมีผู้ติดตาม 10,000 จนถึง100,000 คน แต่เพจปลอม มีผุ้ติดตามเพียงหลักพันรายเท่านั้น
นอกจากนี้ยังติดตามความเคลื่อนไหวของม่อนแจ่ม ได้ที่เพจเทศบาลตำบลแม่แรมและเพจวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา ก่อนตกเป็นเหยื่อ เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้าง และหลอกลวงนักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง