ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #โดนแล้วนางงาม ! ผบช.น. เตรียมออกหมายเรียกให้ปากคำ

#โดนแล้วนางงาม ! ผบช.น. เตรียมออกหมายเรียกให้ปากคำ

14 February 2021
737   0

   14 ก.พ.64- พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีนางสาวชญาธนุส ศรทัตต์ หรือเฌอเอม อดีตผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ โพสต์ทวิตเตอร์ระบุถูกแก๊สน้ำตาระหว่างการสลายการชุมนุม 13 ก.พ.ว่า ขอยืนยันขณะนั้นตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตา เพราะก่อนจะใช้เราต้องแจ้งเตือน แม้สถานการณ์จะอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้แก๊สน้ำตาก็ตาม ซึ่งอาจต้องเชิญ เฌอเอม มาให้ปากคำ เพื่อเป็นประโยชน์ทางคดีว่าเขาเห็นใครใช้ หรือว่าใครมีข้อมูลหลักฐานสามารถส่งมาให้ตำรวจได้

 ถามว่าในโซเชียลมีเดียมีผุดแฮชแท็ก#ตำรวจกระทืบหมอ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีอาชีพพยาบาล และยังอยู่ในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย ตำรวจเลือกที่จะไม่ใช้น้ำ แก๊ส กระสุนยาง และมีการประกาศแจ้งเตือนให้ระยะเวลาออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็มีความจำเป็นต้องเข้ารักษาความสงบ ต่อข้อซักถามว่าทางกลุ่มยืนยันบุคคลดังกล่าวเป็นพยาบาลอาสา รวมทั้งสวมเสื้อกั๊กบอกสัญลักษณ์ทีมแพทย์อาสา ผบช.น.ชี้แจงว่า ตนไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้ทำหน้าที่พยาบาล ตนบอกว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นเขาไม่ได้มีอาชีพเป็นพยาบาล ส่วนในการชุมนุม เขาอาจจะทำหน้าที่พยาบาลของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ อันนี้ตนไม่ทราบ แต่บริเวณที่เขาอยู่ใกล้เคียง มีกลุ่มบุคคลที่ขว้างปาสิ่งของ และใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“เหตุตรงนั้นทางตำรวจได้มีการประกาศแจ้งเตือนหลายครั้ง ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากมีแกนนำบางส่วนได้ประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว ซึ่งได้เลยเวลาและเป็นกลุ่มที่สร้างความวุ่นวาย ทางตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนขอร้องให้ออกจากพื้นที่ เพราะตำรวจมีความจำเป็นต้องเปิดเส้นทางการจราจร และมีความจำเป็นให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังคงขว้างปาทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องตั้งแนวและผลักดันคนออกไป ทั้งนี้ตำรวจไม่ได้มีเจตนา แก้แค้น ตอบโต้ หรือกลั่นแกล้ง ก็ได้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ทุกครั้งก็มีการประกาศแจ้งเตือนก่อนทุกครั้ง”

 ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่ จะต้องอดทนอดกลั้น ที่ผ่านมาตำรวจได้รับบาดเจ็บมาโดยตลอด จึงต้องมีการย้ำเตือนอยู่หลายครั้งว่าเจ้าหน้าที่ต้องการรักษาความสงบ ในกรณีที่มีความจำเป็นมีเหตุการณ์รุนแรงก็อยากให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดำเนินการได้