วานนี้ (8 ก.ย. 2564) พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้เข้าแจ้งข้อหาหมิ่นกษัตริย์และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (3) จาก 2 โพสต์เฟซบุ๊กของอานนท์ นำภา นักกิจกรรมและทนายความสิทธิมนุษยชน ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2564 โดยโพสต์ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับการตั้งคำถามถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10
.
พ.ต.ท.ทศพร ศรีสัจจา สารวัตร (สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. ได้แจ้งพฤติการณ์ให้อานนท์ทราบผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยมีทนายความร่วมฟังการสอบสวนอยู่ด้วย โดยบรรยายว่า
.
ร.ต.อ.ณัฐภัทร เรืองศิลป์ประเสริฐ ผู้กล่าวหา ได้รับคําสั่งจาก ผู้บังคับบัญชา และขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวและเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมายทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้พบผู้ใช้เฟซบุ๊ก บัญชีชื่อ “อานนท์ นําภา” มีการลงเผยแพร่ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 และ 3 ก.พ. 2564 จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิเวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
.
โพสต์ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบ 2 โพสต์
.
1. วันที่ 11 ม.ค. 2564 เวลา 21.42 น. เฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” โพสต์ว่า “การที่ในหลวงวชิราลงกรณ์ลงมาบริหารราชการแผ่นดินด้วยตนเอง นี่ขัดกับหลักประชาธิปไตยแน่ๆ ไม่มีใครบอกเลยหรือว่ามันผิด และถ้าไม่มีใครบอก ก็จะทําผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาพูด ก็โดน 112 แบบนี้ สังคมมีแต่จะพากันเดินลงเหว”
.
2. วันที่ 3 ก.พ. 2564 เวลา 20.25 น. เฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” โพสต์ว่า “ย้ายลูกจากอัยการไปเป็นทหาร นี่แหละตัวอย่างของการทําตัวอยู่เหนือระบบระบอบทั้งปวง ทําอะไรตามใจ และใช้อํานาจบริหารประเทศอย่างแท้จริง ไม่ทําตนให้เป็นกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย แล้วจะให้คนเคารพในฐานะกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร นี่คือเหตุผลหนึ่งที่เราต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสังคม ก่อนที่จะชิบหายไปมากกว่านี้”
.
พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่ “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ และนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร”
.
เบื้องต้นอานนท์รับว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวและเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง แต่ปฏิเสธว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต และต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่อย่างสง่างามในระบอบประชาธิปไตย โดยจะทำคำให้การในประเด็นอื่นเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน พร้อมทั้งระบุพยานเอกสารและพยานบุคคล
ทั้งนี้ อานนท์ยังได้ขอให้พนักงานสอบสวน สอบผู้กล่าวหาเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ดังนี้
.
1.รัชกาลที่ 10 ได้มีการโอนกำลังพลจากกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ รวมทั้งจัดตั้งหน่วยงานส่วนพระองค์ และดำเนินการในการบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ และให้ความเห็นในการโยกย้ายนายตำรวจ (ตั๋วช้าง) จริงหรือไม่
2.ได้มีการโอนย้าย “พระองค์ภา” จากข้าราชการอัยการไปเป็นข้าราชการทหารจริงหรือไม่
3.การกระทำทั้ง 2 ข้อ ถูกต้องตามหลักการ “ปกเกล้าแต่ไม่ปกครอง” และถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่
.
อานนท์ถูกดำเนินคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์” หรือมาตรา 112 คดีนี้เป็นคดีที่ 14 แล้ว ทั้งหมดถูกดำเนินคดีหลังการเคลื่อนไหวเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563 เป็นต้นมา ซึ่งอานนท์ได้เริ่มปราศรัยในที่สาธารณะถึงประเด็นปัญหาสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในสังคมไทย ก่อนจะนำไปสู่ข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยคดีทั้งหมดถูกดำเนินคดีจากการปราศรัยในการชุมนุมต่างๆ รวม 11 คดี และจากการโพสต์เฟซบุ๊กในประเด็นดังกล่าวอีก 3 คดี
.