นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อยื่นเรื่องให้ตำรวจนครบาล ตรวจสอบกรณีการแสดงเดี่ยว 13 ของ โน้ส อุดม แต้พานิช ใน 15 ประเด็น ว่าจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่
นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาโกรธเคืองกับโน้ส ตนเองก็ชื่นชอบ และดูการแสดงเดี่ยวมาตลอด และวันนี้ที่มาก็ไม่ได้มาแจ้งความ เพียงแต่เห็นว่า สิ่งที่โน้ส พูดในการแสดงเดี่ยว อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ตนจึงรวบรวมประเด็นมาประมาณ 15 ประเด็น ให้ตำรวจนครบาลตรวจสอบว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นการที่ตนใช้สิทธิในฐานะพลเมือง เมื่อเห็นสิ่งที่คิดว่าอาจไม่ถูกต้อง ไม่ส่งผลดีต่อประเทศชาติ ก็ต้องให้มีการตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยไป ซึ่งตนยังไม่ได้บอกว่าสิ่งที่โน้สพูดนั้นผิด แค่ต้องการให้ตำรวจตรวจสอบ หากผิดจริงก็ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่หากไม่ผิดก็ไม่เป็นไร
โดยสิ่งที่โน้สพูดในการแสดงนั้น ตนเห็นว่า อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 116 ในเรื่องที่พูดเกี่ยวกับการชุมนุม และยังมีอีกหลายประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ที่มองว่าเป็นการพูดไม่ตรงความเป็นจริง พูดข้อความอันเป็นเท็จ เช่นที่บอกว่า มีการกู้เป็นสิบสิบล้าน ซึ่งจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะมีการนำมาเผยแพร่ลงในสื่อต่างๆ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายศรีสุวรรณ เมื่อวานนี้นั้น ตนมองว่า เป็นเรื่องปกติด้านความคิดที่แตกต่างกัน แต่ในเรื่องพฤติกรรมที่แสดงออกมา เชื่อว่าคนไทยส่วนมากรับไม่ได้ และพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ควรนำมาใช้กับคนที่คิดต่าง ขนาดตนกับคนในครอบครัวเองก็คิดไม่เหมือนกัน แต่อยู่ด้วยกันได้ เพราะยอมรับซึ่งกันและกัน แต่การใช้กำลังที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ตนก็กลัวว่า วันนี้ใช้กำลังกันแบบนี้ แล้ววันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อาจรุนแรงขึ้นไปกว่าเดิมหรือไม่ และเน้นย้ำว่าการใช้สิทธิเสรีภาพ วิพากษ์วิจารณ์ หรือบูลลี คนอื่นนั้น สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย ความคิดต่างเป็นเรื่องสร้างสรรค์ในสังคม แต่ควรมาพูดคุยกันด้วยเหตุผล
อย่างไรก็ตาม สำหรับตนเอง มีการระมัดระวังตัวมาตลอดอยู่แล้ว เพราะทำหน้าที่ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2550 ทำมาตลอดในหลายประเด็นที่ไม่เป็นธรรม และการร้องเรียนของตน ก็ทำให้มีผู้ที่ต้องเสียผลประโยชน์ จึงต้องระมัดระวังตัวเป็นธรรมดา และถ้ามีปัญหากัน ตนก็ต้องวิ่งก่อน ไม่เข้าไปยุ่ง ต้องรักษาตัวเอง
นายสนธิญา บอกด้วยว่า วันนี้ที่จะเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ยอมรับว่า เป็นวันที่ตื่นเต้นมากสุด ตื่นเต้นตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือไม่ แต่ก็เชื่อมั่นว่าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามี ตนก็พร้อมน้อมรับ และจะไม่ตอบโต้เหมือนนายศรีสุวรรณ เพราะการเข้ามาทำงานตรงนี้ จะผิดหรือถูก ประชาชนจะพิจารณาเองอยู่แล้ว ทั้งนี้ ขอฝากให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ในฐานะประชาชนด้วยกัน ว่าขอให้สุขภาพแข็งแรง ตนไม่มั่นใจว่าวันนี้นายศรีสุวรรณจะลุกไหวหรือไม่ เพราะการถูกต่อย แรกๆ มักจะไม่เจ็บมาก แต่เวลาผ่านไปจะมีอาการระบม และตนขอให้กำลังใจทุกฝ่าย อยากให้สามัคคีกัน และฝากถึงผู้ที่เห็นต่างว่า ขอความกรุณาอย่ามาต่อยตน หากฟันหัก ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใส่ฟันปลอม
โดยในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์นั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า นายสนธิญา มีอาการระมัดระวังตัว และหวาดระแวงอยู่ตลอด โดยจะคอยหันซ้ายหันขวา และเมื่อมีใครมายืนข้างหลังก็จะหันไปมอง ซึ่งนายสนธิญาก็บอกว่า ยอมรับว่าระแวง แต่ตนเองเคยเรียนมวยสากลมา จบวิทยาลัยพลศึกษา เคยขึ้นต่อยมาน็อคทุกราย แต่ตอนนี้แก่แล้วคงสู้ไม่ได้ ถ้าจะให้ต่อยคงไม่เอา
ส่วนบรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันนี้ สังเกตได้ว่า มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต มาประจำการ และคอยดูแลความสงบเรียบร้อย ในช่วงระหว่างที่นายสนธิญามายื่นหนังสือด้วย ซึ่งนายสนธิญาก็มีการยกมือไหว้ของคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย