เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม เพจคณะก้าวหน้า – Progressive Movement ได้เผยแพร่ การจัดรายการ “ก้าวหน้า Talk” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เมื่อวันที่ 14ส.ค.ที่ผ่านมา โดยได้พูดถึงกรณีการชุมนุมของประชาชน นิสิต นักศึกษาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ และกำลังจะมีการชุมนุมใหญ่ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม รวมถึงการคุกคาม ติดตาม และจับกุมตัวแกนนำนักศึกษา โดยล่าสุด นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
นายปิยบุตร กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นกลวิธีหรือเทคนิคในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อจำกัดเสรีภาพประชาชน โดยตั้งข้อหาให้มาก ออกหมายจับให้มาก แล้วเลือกจับทีละนิด ทีละคน เพื่อให้การชุมนุมค่อยๆ อ่อนกำลังลงไป
ทั้งนี้ ในการจับนายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และนายภานุพงศ์ จาดนอก เยาวชนระยอง ซึ่งล่าสุดศาลอาญาออกหมายเรียกไต่สวน วันที่ 3 กันยายน ฐานฝ่าฝืนเงื่อนไขประกันที่ห้ามทำผิดซ้ำเดิมซึ่งกรณีนี้ก็มีปัญหาทางกฎหมายอยู่มาก
นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมปราศรัย 10 สิงหาคม ที่ มธ.รังสิต ซึ่งตามประกาศพรก.ฉุกเฉิน ที่ออกมาตั้งแต่ 1 สิงหาคมนั้น บอกว่า การชุมนุมให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีข้อยกเว้นว่า ถ้าชุมนุมในสถานศึกษาไม่ต้องแจ้ง ก็รอดูการไต่สวนว่าจะเป็นอย่างไร แต่อดคิดไม่ได้ว่า สถานการณ์ทำไมประจวบเหมาะกับการที่ตำรวจชอบจับกุมตัววันศุกร์ และก็แปลกใจว่าศุกร์ที่แล้วเพนกวินปราศรัยหน้า สน.บางเขน ทำไมไม่จับ เลือกจับวันนี้
“อย่างนี้อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่คิดอะไรอยู่ การปฏิบัติหน้าที่อ้างทุกครั้งว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหน้าที่ ไม่ทำมีความผิด มีผู้บังคับบัญชาสั่งมา นิสิต นักศึกษาเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน เขาเพียงแค่อยากมาเรียกร้อง ทนเห็นสภาพบ้านเมืองแบบนี้ไม่ไหว แต่ทำราวกับอาชญากร อย่างนี้ คนก็อดเปรียบเทียบคดีคุณบอส อยู่วิทยา ไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ขยันกวดขันกันมากกว่านี้ก็คงหนีไม่ทัน แต่กับนักศึกษาตามทุกฝีก้าว สังคมกำลังตั้งคำถามถึงมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม”นายปิยบุตร กล่าว
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ การชุมนุม มธ.รังสิต ที่สร้างความกังวลว่าสถานการณ์จะไปสู่ความรุนแรง ตนอยากเชิญชวนพิจารณาว่าหลายท่านที่ไม่สบายใจเป็นเรื่องท่าทีบนเวทีและการแสดงออกบางอย่างบนเวที อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทำความเข้าใจน้องนักศึกษาที่พูดบนเวที วัยแห่งความดุเดือดเลือดพล่าน ฮึกเหิมแบบบนเวทีวันนั้นคิดว่าหลายท่านก็คงเคยผ่าน และไม่ควรเอาเหตุการณ์นั้นมาเป็นเหตุให้พวกกระหายเลือดที่จ้องรอกวาดล้างนักศึกษาใช้เป็นเครื่องมือ ต้องช่วยกันหยุดเรื่องนี้ นายปิยบุตร กล่าว
ขณะที่ นายธนาธร กล่าวว่า การข่มขู่คุกคาม ลิดรอนสิทธิ เสรีภาพประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่นายอานนท์ นายภานุพงศ์ และนายพริษฐ์ แต่มีในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เช่น กลุ่มเยาวชนปลดแอกปัตตานี ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารไปติดตาม นักศึกษาในภาคอีสานหลายคนก็โดน ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามข่มขู่ให้ประชาชนกลัว ติดต่อไปที่เพื่อน ที่ครอบครัว หรือตามไปถึงบ้าน
และล่าสุดก็มีแผนผังกลุ่มบุคคลที่ปราศรัยเมื่อ 10 สิงหาคม ซึ่งมีถึงรายชื่อคนสั่งน้ำแข็งอยู่ในผังแล้ว ตนเห็นผังแบบนี้หลายครั้ง ลักษณะนี้เป็นหน่วยงานความมั่นคงแน่นอน นี่คือความพยายามจัดการแกนนำอย่างเป็นระบบ นี่คือการทำให้กลัว พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาทีละเล็กน้อยให้รู้สึกกังวล ให้สูญเสียเวลา สูญเสียทรัพยากร สูญเสียกำลังใจ ต้องเรียนอยู่แล้ว เรียกร้องรณรงค์อยู่แล้ว ยังต้องจัดการเรื่องคดีอีก ซึ่งตนยืนยันว่ากลุ่มคนแกนนำต่างๆ เหล่านี้ เขาต้องการกำลังใจจากประชาชน ดังนั้น อย่าปล่อยให้เขาสู้อย่างโดดเดี่ยว ต้องออกมาช่วยกัน
สำหรับข้อเรียกร้องหยุดคุกคามเสรีภาพของประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภานั้น ทั้ง 3 เรื่องเกี่ยวเนื่องกัน สัปดาห์ก่อน ด้านหนึ่งมีการตั้ง กมธ.รับฟังเสียงเรียกร้องนักศึกษา ขณะที่อีกขาให้เจ้าหน้าที่ไล่คุกคาม ยัดข้อหาให้กับแกนนำ ดังนั้น นี่เป็นการพิสูจน์ว่าความพยายามรัฐบาลฟังนักศึกษาและหาทางออกประเทศนั้นไม่เป็นจริง แค่ข้อเรียกร้องแรกก็ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว
ดังนั้น เวลาแบบนี้ อย่าปล่อยให้คนลุกขึ้นมาสู้โดดเดี่ยว เราเป็นกำลังใจ เป็นกำลังกายให้กัน ผมเห็นว่าอนาคตของประเทศตอนนี้อยู่ในมือเยาวชนนักศึกษา เขาจะเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ เราให้กำลังใจเต็มที่” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ตนรู้สึกกังวลใจอย่างมาก ยิ่งได้ฟังการปราศรัยในสภาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บางท่าน เห็นชัดเลยว่าเขาต้องการเห็นการปราบปราบอย่างเด็ดขาด เหมือนพวกกระหายเลือด
ทั้งนี้ในช่วงท้ายรายการ มีการเชิญชวนประชาชนไปร่วมให้กำลังใจในการชุมนุมที่จะมีขึ้นในเย็นวันที่ 16 สิงหาคมนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย โดย นายธนาธร ระบุสาเหตุที่ตนเอง และนายปิยบุตร ไม่ไปร่วมชุมนุม เพราะว่า การไปร่วมชุมนุม น่าจะเป็นโทษกับนักศึกษามากกว่าเป็นคุณ เพราะจะถูกโจมตีว่าอยู่เบื้องหลัง คิดว่าอนาคตอยู่ในมือนักศึกษา ประเทศไทยจะไปในทิศทางไหน เยาวชนนักศึกษาเป็นคนตัดสิน โดยพร้อมเป็นกำลังใจและขอปกป้องอยู่ข้างหลัง
อย่างไรก็ตามทางทางกลุ่มไลน์ของคณะก้าวหน้าก็ได้แจ้งกิจกรรม วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2563เวลา 11.00-12.00น.โดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เปิดบรรยายสาธารณะพิเศษ “ชวนสนทนาว่าด้วย ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ที่ อาคารไทยซัมมิท ชั้น5