เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีการนำเอกสารของการดำเนินคดีฝ่ายตนเองไปเผยแพร่ และนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล
นายปรีชา กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ เนื่องจากได้รับการประสานจาก พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองปราบปรามให้แจ้งความหลังมีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนก่อนหน้านี้แล้ว พบว่ามีมูลจริงตามที่เคยร้องเรียนไป เมื่อปี 2562 จริง
ซึ่งการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ เนื่องจากมีการนำพยานหลักฐานสำคัญในคดีหวย 30 ล้าน ออกไปจากสำนวน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อสู้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และสามารถซักค้านตนเองได้ทั้งหมดในศาล ซึ่งตนเองมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ยืนยันลอตเตอรี่เป็นของตนเอง ส่วนที่ฝั่งหมวดจรูญอ้างว่าจำหน้าคนขายไม่ได้นั้น ตนเองมองว่า ไม่ใช่จำไม่ได้แต่ไม่มีคนขายตัวจริงที่ขายให้หมวดจรูญ และในส่วนของคดีขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นฎีกา พร้อมย้ำสโลแกนประจำตัว “ความจริงก็คือความจริง”
ด้านนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความ เผยว่า เดิมที่สำนวนคดีนี้ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้ทำสำนวน ก่อนส่งต่อให้กองปราบฯ และต่อมาพบว่าสำนวนหลุดไปถึงมือบุคคลภายนอก ทำให้ครูปรีชา ร้องเรียนไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าการสอบสวนเรื่องน่าจะมีความชัดเจนขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานให้เข้าแจ้งความในวันนี้
ในส่วนของคดีความที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ตัดสินก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการยื่นฎีกาต่อศาล ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ แต่ประเด็นเรื่องเอกสารข้อมูลที่หลุดรอดไปยังติดใจในประเด็นอยู่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะมีผลต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณาว่า หลักฐานที่กองปราบฯเอาไปเบิกความทั้งศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ จะยังมีความเชื่อถือหรือไม่