เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่โรงเรียนห้างฉัตรวิทยา อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นายอำเภอห้างฉัตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่างผู้กำกับการ สภ.ห้างฉัตร ได้เข้าพบ นายใจชาย ปัณนะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนห้างฉัตรวิทยา และคณะผู้บริหารโรงเรียน ครู เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นักเรียนหญิง อายุ 18 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียน แอบนำ “กัญชา” เข้ามาขายในโรงเรียน ซึ่งมีเพื่อนนักเรียนติดงอมแงม ทำให้กระทบต่อการเรียน เพราะหลายคนมีอาการเมาและง่วงซึม จนต้องนอนในห้องเรียน
กระทั่งครูจับได้ว่านักเรียนคนดังกล่าวนำกัญชาเข้ามาขายจริง เริ่มแรกเป็นใบตากแห้ง ซึ่งนำมาสูบ ทำให้ครูสั่งห้าม ไม่ให้นำเข้ามาภายในโรงเรียน แต่เด็กนักเรียนยังนำน้ำมันกัญญา และน้ำดื่มที่สกัดจากกัญชาเข้ามาขายในโรงเรียนอีก และถูกครูตรวจพบนั้น
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นายใจชายได้ออกมายอมรับว่า มีนักเรียนลักลอบขายกัญชาให้นักเรียนคนอื่นในโรงเรียนจริง ซึ่งครูได้แจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ที่แอบขายกัญชาได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว มีการบันทึกภาพของกลางไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด ต่อมาโรงเรียนมีการตรวจเข้มนักเรียนทั้งหมดกว่า 500 คน โดยให้ครูเวร ครูประจําชั้น ตรวจกระเป๋ากางเกง และกระเป๋าหนังสือของนักเรียนทุกคนที่มาเข้าแถวเคารพธงชาติ ส่วนรถรับ-ส่งนักเรียนให้จอดส่ง และรับด้านนอกทุกคัน แต่ก็ยังพบว่านักเรียนหญิงคนเดิมนํากัญชาเข้ามาขายได้อยู่ จนกระทั่งเป็นข่าวโด่งดังออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายอำเภอห้างฉัตรและผู้กำกับการ สภ.ห้างฉัตร เข้าไปติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้อำนวยการโรงเรียนภายในห้องทำงาน ได้มีเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาในพื้นที่ จ.ลำปาง เดินทางมายังโรงเรียน เพื่อเข้าไปร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกคณะ นำโดย นางนภาพร แสงนิล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง-ลำพูน ที่ได้รับมอบหมายจาก นายประสิทธิ์ อินวรรณา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง-ลำพูน ให้มาติดตามข้อเท็จจริง และสั่งการมาตรการต่างๆ ของกระทวงศึกษาธิการต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นางนภาพรเปิดเผยภายหลังการหารือว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง-ลำพูน ที่ดูแลโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่ จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้ว เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดจากกัญชงและกัญชา หลังจากเจอเหตุการณ์นี้คงต้องดูแล และเยียวยาทั้งเด็กนักเรียนที่เป็นปัญหา ตลอดจนผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนในภาพรวมของทางโรงเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมีในโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสังคมรับรู้ข่าวดังกล่าวได้เกิดเสียงวิพาค์วิจารณ์ต่อภาพลักษณ์โรงเรียนอย่างมาก ทำให้ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนอยากให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจง และเข้มมาตรการต่างๆ เพื่อขจัดปัญหา และป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอีก หลายคนห่วงบุตรหลานที่มาเรียน ไม่อยากให้เจอปัญหาเรื่องยาเสพติด รวมถึงปัญหากัญชง กัญชา ที่มีการปลดล็อกที่ผ่านมา
ด้าน นักเรียนหญิงและครอบครัว ทราบว่า วันนี้เด็กไม่ได้มาเรียน โดยพักร่างกายและจิตใจอยู่ที่บ้านใน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เนื่องจากข่าวที่นำเสนอออกไปกระทบตนเองและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ซึ่ง “พ่อของเด็ก” ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นและจะรับผิดชอบด้วยการขอให้นักเรียนลาออก เพื่อย้ายนักเรียนหญิงไปเรียนที่อื่นๆ ให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ ไม่ให้กระทบกับโรงเรียน หรือกับนักเรียนคนอื่นๆ อีก เพราะแม้ลูกสาวจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับกัญชาเด็ดขาดแล้ว แต่เนื่องจากข่าวที่โด่งดัง จึงไม่ให้กระทบภาพลักษณ์และจิตใจของทุกฝ่าย
อย่างไรก็ดี หลังจากทั้งหมดหารือกันนานกว่า 3 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 11.30 น. ผอ.โรงเรียนห้างฉัตรวิทยาได้ถือเอกสารออกมา พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อโรงเรียนห้างฉัตรวิทยา นักเรียน ผู้ปกครอง ขออนุญาตแจกเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับผู้สื่อข่าว เพื่อให้การนำเสนอข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จากนั้นผู้อำนวยการได้ยกมือไหว้ และแจกเอกสารซึ่งเป็นแถลงการณ์ของทางโรงเรียน จากนั้นรีบเดินกลับเข้าห้องทำงานทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปทางโรงเรียนจะมีมาตรการอย่างไร แต่ผู้อำนวยการได้ยกมือขึ้นเพื่อไม่ให้รายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนหันหลังกลับเดินเข้าห้องไป
สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ตามที่มีสื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอข่าวว่ามีผู้ปกครองได้ร้องเรียนกับสื่อว่ามีนักเรียนสูบกัญชาในโรงเรียนห้างฉัตรวิทยา จ.ลำปาง และนักเรียนมีอาการง่วงนอน สะลืมสะลือในเวลาเรียน ซึ่งมีลักษณะเหมือนการเสพกัญชา จากการนำเสนอข่าวดังกล่าว เป็นการนำเสนอที่บิดเบือนจากความเป็นจริง ทำให้นักเรียน ที่ไม่เกี่ยวข้อง และโรงเรียนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทางโรงเรียนจึงขอชี้แจงข้อเท็จ ดังนี้
1.โรงเรียนได้ดำเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวทางการปฎิบัติที่เกี่ยวกับกัญชา หรือกัญชงในสถานศึกษา ส่วนราชการ หรือหน่วยงานในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
2.โรงเรียนดำเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน และนักศึกษา พ.ศ.2548 และให้ครูที่ปรึกษาดูแลพฤติกรรมนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยร่วมกับนักจิตวิทยา เพื่อติดตาม และดูแลช่วยเหลือนักเรียน
3.การดูแลนักเรียนในโรงเรียน ได้ชี้แจง สร้างความเข้าใจกับนักเรียนทั้งหมด พร้อมทั้งให้ครูที่ปรึกษาสื่อสารกับผู้ปกครองผ่านกลุ่มไลน์ของห้องให้เข้าใจในทิศทางเดียวกัน
4.โรงเรียนจะเชิญคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เครือข่ายผู้ปกครอง พร้อมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับชุมชน และให้ผู้ปกครองรับรู้ และสร้างความเข้าใจต่อไป
ทางโรงเรียนขอชี้แจงว่า ข่าวที่ออกมาดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โรงเรียนได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันกัญชาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการมาโดยตลอด ครูประจำชั้นทุกคนได้เฝ้าดูแล และไม่ได้เพิกเฉยตามที่สื่อได้นำเสนอ
