วันที่ 15 ก.ย. 65 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึง กรณีที่เขตลาดกระบัง พบกระสอบทรายอัดอยู่ในท่อระบายน้ำจำนวนมาก ว่า จากการช่วยเหลือของทหารเรือเข้าไปช่วยเหตุการณ์น้ำท่วม ได้เจอกระสอบทรายอุดในท่อระบายน้ำ ตนตกใจจึงได้โทรไปหา ผอ.เขตลาดกระบัง ได้รับรายงานมาว่า เป็นวิธีกันน้ำเข้าถนน จึงต้องบล็อกท่อระบายน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกมา แต่เหตุการณ์ผ่านมาควรเอาตัวอุดออก แต่ตนไม่ได้เชื่อ ผอ.เขตลาดกระบัง จึงถามนักวิชาการ ตนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ มีหน้าที่ในการกำกับภาพถ่ายรวม ปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีคำสั่งไปแล้ว อย่าลืมเอากระสอบทรายออก จะส่งผลระยะยาว เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ ส.ก.เพื่อไทย แจงกระสอบทรายอุดในท่อ เป็นเทคนิคระบายน้ำ ป้องกันน้ำไหลย้อนกลับ ไม่ใช่การวางยาทางการเมือง นายชัชชาติ เผยว่า อยากให้ดูที่เจตนา ต้องขอบคุณประชาชนที่ออกมาแจ้ง ตนต้องการให้ประชาชนออกมาร่วมสื่อสาร ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่ตรงกัน ต้องให้ประชาชนเข้าใจการสื่อสารร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อสารทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ส่วนความคืบหน้าในการลอกท่อที่กรมราชทัณฑ์ออกมาช่วยเหลือ แต่ที่ล่าช้า ว่า กรมราชทัณฑ์มีงานเยอะมาก แต่ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไป ผู้ที่อยู่ในเขตลาดพร้าวรู้สึกดีที่น้ำลดลง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่กรุงเทพฯ น้ำท่วม เป็นเพียงกรุงเทพฯ บางส่วน รวมทั้งเขตลาดกระบัง บางเขนดอนเมือง อีกทั้งปีนี้มาเยอะมาก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ กทม. ที่ทำงานอย่างหนัก และมีการปรับปรุงแผนทำให้รับน้ำได้มากขึ้น “ส่วนน้ำท่วมที่ลาดกระบัง เป็นปัญหาเรื่องกายภาพ เพราะภาคตะวันออกปล่อยน้ำมาจะเจอคลองแสนแสบ ต้องปล่อยนำเข้าเขตประเวศ คลองพระโขนง ตนอยากเสนอทางด่วนน้ำไว้แก้ปัญหา ส่วนกรมชลประทาน มีแผนแบบนี้แล้วแต่ว่าเป็นแผนระยะยาว สิ่งที่เราทำอาจจะเป็นอุโมงค์น้ำจากคลองลำปลาทิว เพื่อตัดน้ำจากลาดกระบังให้ออกไปถึงอ่าวไทย ใช้เวลาในการสร้างไม่นาน เขตลาดกระบังทำฟลัดเวย์ยาก เพราะมีสนามบินสุวรรณภูมิและสิ่งก่อสร้าง หากกรุงเทพฯ สามารถแก้ไขน้ำท่วมได้ก็จะปลอดภัยจากวิกฤตน้ำท่วม นี่คือยุทธศาสตร์อุโมงค์ระบายน้ำที่เราจะต้องมีการวางแผน ซึ่งจะเป็นการลดระยะทางระบายน้ำ” สำหรับการตั้ง ศูนย์บริหารจัดการข้อมูลสถานการณ์น้ำกรุงเทพมหานคร (วอร์รูมน้ำ) เป็นการสั่งการช้าไปหรือไม่ ผู้ว่าฯชัชชาติ เผยว่า ตนลงพื้นที่ไม่เคยสั่งการ ให้เป็นหน้าที่ของ ผอ.แต่ละเขต เป็นผู้ดูแล ไม่เคยข้ามหัวการทำงานใครเพราะการสั่งเรื่องน้ำมีการลงบันทึกชัดเจนว่าใครสั่งให้ ทำอะไร เรามีกติกาและกระบวนการ รวมถึงประชุมมาโดยตลอดในการวางแผนแก้วิกฤตน้ำท่วม นี่คือแนวทางของเรา “สาเหตุที่ตนลงพื้นที่ เพราะอยากจะเห็นภาพจริง ยอมรับว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญน้ำ จึงอยากจะถามเจ้าหน้าที่ว่าโดนวางยาจริงหรือไม่ เมื่อเราลงพื้นที่หน้างานเราก็จะได้รู้ถึงปัญหา ยืนยันไม่ใช่การก้าวก่ายการทำหน้าที่ ไม่เคยข้ามหัวการทำงานใคร ที่เห็นตนเครียด เพราะว่าต้องการที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ไวที่สุด ส่วนเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ก็น้อมรับทุกความคิดเห็น” ทั้งนี้ การลงพื้นที่เขตลาดกระบัง ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ทำให้ตนได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงการเสนอแผนในการระบายน้ำ ตนเข้าใจว่าการระบายน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อมีการประสานและมีผู้บัญชาการทำให้ทำงานสะดวกมากขึ้น “เมื่อวานผมบอกว่า รองนายกฯประวิทย์ พอท่านมาฝนหยุด เพราะในปัจจุบันฝนตกแรงมาก แนวคิดการป้องกันน้ำท่วมจะต้องมีการช่วยคิดกันใหม่ ใช้แบบเดิมไม่ได้ ส่วนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตนก็ปรึกษาท่านบ่อย ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ จากนี้ไปตนจะเริ่มพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล เพื่อที่จะพูดถึงปัญหาต่างๆ เพราะว่าเป็นจังหวัดที่อยู่เชื่อมโยงกัน และเป็นการรวบรวมข้อมูลแบบบูรณาการ