เกิดการโจมตีโลกไซเบอร์ไปทั่วโลก ด้วยการใช้มัลแวร์ประเภทเรียกค่าไถ่ข้อมูลออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังอาจใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากเอกสารลับที่รั่วไหลออกมาจากองค์กรความมั่นคงของสหรัฐฯ
วันที่ 13 พ.ค.60 หลายประเทศกำลังเผชิญกับการโจมตีโลกไซเบอร์ ด้วยยุทธวิธีทีใช้การเผยแพร่มัลแวร์ ประเภทเรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์ คือการล็อกการเปิดเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้ หากไม่ยอมจ่ายเงินออนไลน์ หนึ่งในประเทศที่กระทบมากที่สุดคืออังกฤษ ซึ่งโรงพยาบาลหลายแห่งถูกโจมตีทางไซเบอร์นี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกระทรวงมหาดไทยรัสเซีย บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของสเปน และบริษัทขนส่งสินค้า เฟดเอ็กซ์ของสหรัฐฯด้วย
เบื้องต้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า แรนซัมแวร์ที่ใช้โจมตีองค์กรเหล่านี้ เป็นแรนซัมแวร์ที่พัฒนาโดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากเอกสารลับที่รั่วไหลออกมาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งสหรัฐฯ หรือเอ็นเอสเอ โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่า นี่เป็นการก่อเหตุโจมตีแบบสากล ไม่ใช่แค่พุ่งเป้าไปที่อังกฤษเท่านั้น ด้านกระทรวงมหาดไทยรัสเซียเองยอมรับว่า กำลังหาหนทางทำลายแรนซัมแวร์นี้อยู่
พนักงานบริษัทด้านความมั่นคง อะวาสต์ (Avast) เปิดเผยว่า จนถึงเวลา 3 นาฬิกาวันนี้ตามเวลาในไทย ทางบริษัทตรวจพบการใช้แรนซัมแวร์นี้ถึง 7 หมื่น 5 พันครั้ง ครอบคลุม 99 ประเทศทั่วโลก ส่วนบริษัทแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) ระบุว่าพบการใช้แรสซัมแวร์ 4 หมื่น 5 พันครั้ง ใน 74 ประเทศ แต่ก็ยอมรับว่า มัลแวร์ชนิดนี้ มีรูปแบบที่สร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว