เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ริเริ่มกิจกรรมคาร์ม็อบสมบัติทัวร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นถึงแนวทางการต่อสู้ทางเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่า
ผมพยายามทำความเข้าใจว่าทำไม Car Mob ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ออกแบบมาแก้ปัญหา Covid และเป็นกิจกรรมที่โคตรสันติวิธีที่สุดกิจกรรมหนึ่งรองมาจากการนั่งสมาธิ ถึงถูกนักร้อง (แรมโบ้, ศรีสุวรรณ, สนธิญา) ทั้งหลายพยายามโจมตี และแจ้งความว่าเป็นภัยความมั่นคงในระดับที่เทียบเท่ากับการกระทำที่น่าอับอาย ที่ พลเอกประยุทธ์และคณะทำการรัฐประหารยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครอง
Car Mob = ล้มล้างการปกครอง เป็นข้อกล่าวหาที่จัดว่าอุบาทว์ ทั้งตรรกะ และคนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีผิด ม.113
ทำไมพวกคุณถึงใจแคบ ไม่ยอมให้กิจกรรมทางการเมืองที่เป็นสันติวิธีเติบโตและดำเนินการไปในแนวทางนี้ คุณปิดกั้นแนวทางสันติวิธีแล้วคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวจะหยุดลงอย่างนั้นหรือ ?
อย่าแสดงความโง่และใจแคบไปหน่อยเลย ต่อให้มีผู้นำประเทศที่โง่ พวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกในมาตรฐานเดียวกันกับเขา การปล่อยให้การชุมนุมที่ยึดแนวทางสันติวิธีเช่นนี้ มีพื้นที่ในการดำเนินกิจกรรมต่อไป จะทำให้สันติวิธีเป็นมาตรฐานการชุมนุม ที่เมื่อมีกลุ่มการเมืองอื่นเกิดขึ้น เขาจะพยายามยึดถือแนวทางนี้ รัฐก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายในแบบที่คุณกังวล
การปิดกั้นและพยายามทำลายกระบวนการสันติ เป็นการทำให้รัฐอาจต้องเผชิญหน้ากับแนวทางที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ระบุไว้ว่าผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต