กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบังคับการควบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จังหวัดเชียงราย (ชุดปฏิบัติการเวียงเชียงรุ้ง) จับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด กว่า 8 ล้านเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบ จานวน 41 กระสอบ ณ จุดตรวจ/จุดสกัดชั่วคราว บริเวณบ้านป่าสักงาม หมู่ 9 ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียง-เชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม .2561 เวลา 10.00 น. ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ จ.เชียงราย โดยการอำนวยการของ พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 , พลตรีสุภโชค ธวัชพีระชัย รอง แม่ทัพภาคที่ 3 ,พลตรีฉลองชัย ชัยยะคำ รอง แม่ทัพภาคที่ 3 ,นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย,พล.ต,ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)เมทแอมเฟตามีนจำนวน 7,800,000 เม็ด,ไอซ์ 50 กิโลกรัม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 18 พฤษภาคม 2561 เวลา 21.00 น .กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบังคับการควบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จังหวัดเชียงราย ได้จัดกำลัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี บริเวณเส้นทาง บ้านป่าสักงาม หมู่ที่ 9 ตำบลดงมหาวัน อาเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย จนกระทั่งเวลาเวลา 21.45 น. ตรวจพบผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทาดา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถคันดังกล่าว หลบหนีฝ่าจุดตรวจ/จุดสกัดทางยุทธวิธี ซึ่งขณะที่ทำการหลบหนีไป ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถตกถนน ห่างจากจุดตรวจ/จุดสกัด ประมาณ 350 เมตร และได้อาศัยความมืดหลบหนี ไปตามภูมิประเทศ ซึ่งจากผลการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบยาเสพติด จำนวน 41 กระสอบ โดยเป็น ยาบ้า 39 กระสอบ จำนวนประมาณ 7,800,000 เม็ด และไอซ์ 2 กระสอบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม
สำหรับยาบ้าที่ตรวจยึดได้นั้น คาดว่ามาจากชนกลุ่มน้อย ที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยอาศัยช่องทางต่างๆ จากนั้นจึงลำเลียงด้วยยานพาหนะ เข้าสู่พื้นที่ตอนในต่อไป
ผลการจับกุมยาเสพติดที่สาคัญในพื้นที่ชายแดน และพื้นที่พิเศษ ห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงเดือนเมษายน 2561 ทั้งฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้และร่วมจับกุม จำนวน 21,800,000 เม็ด ถ้ารวมครั้งนี้ ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้อีก จำนวน 7,800,000 เม็ด ทำให้สามารถจับกุมยาบ้าทั้งหมดย 29,600,000 เม็ด สำหรับไอซ์ในห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้และร่วมจับกุม จำนวน 867 กิโลกรัมเศษ ถ้ารวมครั้งนี้ด้วย ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้อีกจำนวน 50 กิโลกรัม ทำให้สามารถจับกุมไอซ์ทั้งหมด 917 กิโลกรัมเศษ
ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ของการจับกุมในครั้งนี้ เกิดจาก แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อานวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และให้มีการเพิ่มความเข้มข้นงานด้านการข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โต๊ะข่าวที่เฉพาะเจ้าหน้าที่จริงๆ ต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านและทันเวลา รวมทั้งการเพิ่มมาตรการเข้มงวด ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้น ในลักษณะการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี โดยวิธีการปรับเปลี่ยนเวลา ตามสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการลาดตระเวน เฝ้าตรวจตามเส้นทางในภูมิประเทศ
ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบก ที่กาหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สาคัญ ที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และในแต่ละภาคของประเทศไทย นั้น ทุกภาคส่วน ทั้ง ทหาร ตารวจ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนและยาวนานต่อไป
สำนักข่าววิหคนิวส์