เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่โรงแรม The Okura Prestige กรุงเทพฯ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรม 44 ส.ส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวน และอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง 44 ส.ส. และพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำ ยืนยันว่าเป็นกระบวนการไต่สวนตามปกติ ซึ่งหลังจากมีการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมีการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐาน ว่าบุคคลใดมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเรียก ส.ส.มาให้ถ้อยคำแลัว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใด ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งตามกรอบของกฎหมาย ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี แต่ ป.ป.ช.คงไม่รอ
เมื่อถามว่า จะนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาเป็นส่วนประกอบในการพิจารณาคดีหรือไม่ นายสาโรจน์กล่าวว่า ไม่ว่าพยานหลักฐาน เอกสารใดๆ รวมทั้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะนำมาเป็นส่วนประกอบในการพิจารณา ซึ่งการตรวจสอบในเรื่องของการฝ่าฝืนจริยธรรม ก็จะต้องดูพฤติการณ์ประกอบหลายอย่าง ดังนั้นอะไรที่เป็นประโยชน์ ก็จะนำมาพิจารณาทั้งหมด ซึ่งหลักการพิจารณาในเรื่องของการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ก็จะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลเป็นหลัก