เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ใกล้แตกหัก ! รัสเซียล้อมเมืองหลวงยูเครนไว้หมดแล้ว

#ใกล้แตกหัก ! รัสเซียล้อมเมืองหลวงยูเครนไว้หมดแล้ว

13 March 2022
532   0

   กองกำลังรัสเซียเพิ่มแรงกดดันใส่กรุงเคียฟในวันเสาร์ (12 มี.ค.) และถล่มพื้นที่พลเมืองตามเมืองต่างๆ ของยูเครน ท่ามกลางความพยายามรอบใหม่ในการส่งมอบความช่วยเหลือไปยังเมืองมาริอูโพล

เจ้าหน้าที่ของทั้งยูเครนและรัสเซียในวันเสาร์ (12 มี.ค.) ต่างให้คำจำกัดความสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ว่า “หายนะ”

ในมอสโก กระทรวงกลาโหมระบุว่ามีความพยายามเดินหน้ากดดันอย่างไม่ลดละในภาคสนาม โดยรายงานว่ากองกำลังรัสเซียรุกคืบในแนวหน้าระหว่างวัน เป็นระยะทางกว่า 12 กิโลเมตร แต่ไม่เจาะจงว่าเป็นที่ไหน

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมบอกด้วยว่าพวกแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่มอสโกได้บุกเข้าไปถึงขอบชายเมืองเซเวโรโดเนตสก์ ซึ่งมีประชากร 100,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียยังได้ทำลายสนามบินในเมืองวาซิลคีฟ ทางตอนใต้ของกรุงเคียฟ ในขณะที่ย่านชานเมืองต่างๆ แถบตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง ในนั้นรวมถึงเออร์พินและบูชา ถูกทิ้งระเบิดถล่มอย่างหนักต่อเนื่องมาหลายวัน และขบวนยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซียรุกคืบใกล้ขอบชายทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหลวงแห่งนี้

วิตาลิ คลิตช์โก นายกเทศตรีเคียฟ เปิดเผยว่าเมืองหลวงแห่งนี้กำลังเสริมการป้องกันตนเอง เสบียงอาหารและยา หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนรายหนึ่งให้คำจำกัดความกรุงเคียฟเมื่อวันศุกร์ (11 มี.ค.) ว่า “เป็นเมืองที่ถูกโอบล้อม”

ขบวนรถบัสยังคงเดินหน้าพาพวกผู้อพยพจากบริเวณย่านชานเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดเข้ายังในตัวเมือง และคลิตช์โก กล่าวในวิดีโอว่า “เราจะไม่ยอมแพ้”

เมืองอื่นๆ พากันล่มสลายหรือไม่ก็ถูกปิดล้อม นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเพื่อนบ้านแห่งนี้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในสิ่งที่เคียฟกล่าวหาว่าเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน ซึ่งทางสหประชาชาติเตือนว่ามันเทียบเท่ากับอาชญากรสงคราม

โดยเฉพาะในมาริอูโพล เมืองท่าทางใต้ของประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนให้คำจำกัดความว่ากำลังเผชิญ “หายนะด้านมนุษยธรรม” มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 1,500 คนในช่วง 12 วันที่ผ่านมา

ท่ามกลางความพยายามทางการทูตอันเข้มข้น เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ 3 ฝ่าย ให้ยุติการปิดล้อมนองเลือด

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวให้ความหวังเล็กๆ น้อยๆ ในวันเสาร์ (12 มี.ค.) โดยบอกว่ารัสเซียได้มีท่าทีที่ต่างออกไปโดยพื้นฐาน ในการเจรจารอบล่าสุดเพื่อยุติความขดแย้ง เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขา “รู้สึกพอใจสัญญาณจากรัสเซีย” หลังจาก ปูติน พูดถึงการเปลี่ยนไปทางในบวกบางอย่างในการเจรจาที่เกิดขึ้นเกือบทุกวัน

ในด้านสถานการณ์ภาคสนาม พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเริ่มเข้าตาจนมากขึ้นเรื่อยๆ แทบไม่พบเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นเลย โดยอิสมาอิล ฮาซิโอกลู ประธานสมาคมมัสยิดสุเลมันในมาริอูโพล เผยว่ากำลังอพอยพชาวตุรกีเกือบ 90 คนในเมืองแห่งนี้ แต่ต้องหยุดชะงักซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการถูกปิดถนนโดยฝ่ายรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธรายงานข่าวของยูเครนที่อ้างว่ารัสเซียยิงระเบิดถล่มมัสยิดที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงของพลเรือนผู้ลี้ภัย โดยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เตอร์กิส ทีวี ว่าตัวมัสยิดเองไม่ได้ถูกโจมตีแต่อย่างใด

ความพยายามอพยพบางส่วนประสบความสำเร็จ หน่วยฉุกเฉินของยูเครนบอกว่ามีประชาชน 487,000 คนได้รับการอพยพในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงเด็ก 102,000 คน อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนอ้างว่ารัสเซียยิงใส่กลุ่มผู้หญิงและเด็กที่กำลังเดินทางออกจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กรุงเคียฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 1 คน

สหประชาชาติประมาณการว่ามีประชาชนเกือบ 2.6 ล้านคนแล้วที่หลบหนีออกจากยูเครนนับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น ส่วนใหญ่มุ่งหน้าสู่โปแลนด์ นับเป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2


ด้วยที่รัสเซียยบกระดับการทิ้งระเบิดหนักหน่วงขึ้น เซเลนสกีร้องขอนานาชาติยกระดับความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่วอชิงตันและพันธมิตรยูเครนได้ส่งมอบเงินช่วยเหลือและความช่วยเหลือด้านการทหารไปยังยูเครน และใช้มาตรการคว่ำบาตรเล่นงานเศรษฐกิจและชนชั้นสูงของรัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีการคว่ำบาตรทางวัฒนธรรมและกีฬาที่กำลังโดดเดี่ยวมอสโกมากยิ่งข้น

ขณะที่นานาชาติยกระดับความเข้มข้นของมาตรการคว่ำบาตรกำหนดเล่นงานรัสเซีย ทางรอสคอสมอส หน่วยงานอวกาศของรัสเซียออกมาเตือนในวันเสาร์ (12 มี.ค.) ว่ามาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย อาจเป็นเหตุให้สถานีอวกาศนานาชาติร่วงได้

อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ (11 มี.ค.) วอชิงตันยังคงเดินหน้าคว่ำบาตรไม่หยุด คราวนั้นเป็นการยุติความสัมพันธ์ทางการค้าอันปกติกับรัสเซีย และประกาศแบนวอดก้า อาหารทะเล และเพชรจากรัสเซียเพิ่มเติม

ในวันเสาร์ (12 มี.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ สั่งการมอบอาวุธใหม่ๆ และความช่วยเหลือด้านอื่นๆ แก่ยูเครน เพิ่มอีก 200 ล้านดอลลาร์ แต่เขาปฏิเสธใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับรัสเซีย ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง โดยเตือนว่ามันอาจนำไปซึ่งสงครามโลกครั้งที่ 3

ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติหนักหน่วงขึ้น ปูตินในวันเสาร์ (12 มี.ค.) หาทางเปลี่ยนกระแส ประณามเคียฟในสิ่งที่เขาเรียกว่า ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งและกล่าวหาทหารยูเครนประหารผู้เห็นต่างและใช้พลเรือนเป็นตัวประกัน

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสตำหนิคำกล่าวหาของปูตินว่า “โกหก” ส่วน เซเลนสกี กล่าวผ่านวิดีโอ เรียกร้องให้ชาวยูเครนเดินหน้าสู้ต่อไปและขอให้ประเทศพันธมิตรดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่

ในวันเสาร์ (12 มี.ค.) เขาอ้างว่ามอสโกประสบความสูญเสียใหญ่หลวง ก่อนให้ยอดความสูญเสียของทหารยูเครนเป็นครั้งแรกที่ราวๆ 1,300 นาย ส่วนสหรัฐฯ คาดหมายว่าฝ่ายรัสเซียมีทหารเสียชีวิตประมาณ 2,000 ถึง 4,000 นาย ในขณะที่มอสโกให้ตัวเลขอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามีทหารรัสเซียเสียชีวิตเพียง 498 นาย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกในวันเสาร์ (12 มี.ค.) ว่ากบฏฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคโดเนตสก์ จนถึงตอนนี้เสียชีวิตแล้ว 79 ราย

นักรบต่างประเทศไหลบ่าเข้าร่วมวงความขัดแข้งจาก 2 ฟากฝั่ง และในวันศุกร์ (11 มี.ค.) เครมลินยกระดับความพยายามเสริมกำลัง โดยเฉพาะบรรดานักรบจากซีเรีย

ในเมืองมาลิโตโปล ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย เซเลนสกีเผยว่ามีประชาชนราว 2,000 คน รวมตัวประท้วงต่อต้านเหตุลักพาตัวนายกเทศมนตรีของเมือง โดยฝีมือของทหารรัสเซีย ในวันศุกร์ (11 มี.ค.) เขาเรียกร้องให้มาครง และโชลซ์ ช่วยหาทางให้รัสเซียปล่อยตัว อีวาน เฟโดรอฟ ซึ่งเขากล่าวหาปฏิบัติการดังกล่าวของมอสโกว่าเป็น “ก่อการร้ายขั้นใหม่”

(ที่มา : เอเอฟพี)