เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 30 มกราคม ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามให้ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการกิจการศาลฯแล้ว ขณะที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.พิมณัฎฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่น.ส.พิมณัฎฐาได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ (30 ม.ค.) กรรมการจึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวว่า พร้อมกันนี้พรรคยังสั่งการให้ตรวจสอบคณะทำงานของคณะรัฐมนตรีและประธานกรรมาธิการ โดยภายในการประชุมพรรคครั้งหน้าให้ส่งรายชื่อให้เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติว่าไปกระทำการอันใดที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคหรือไม่ ยืนยันว่าพรรคจะไม่มีการปกป้อง เบื้องต้นยังไม่พบ สมาชิกบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 2 คนที่มีความเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท หากมีเพิ่มเติม ผู้บริหารพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปกป้องคนผิด หากมีข้อมูลก็พร้อมที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี พร้อมระบุไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่มองเป็นเรื่องความบังเอิญที่จับตัว เจ๋ง ดอกจิก ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่มองเป็นความผิดทางอาญาส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย หากวันดังกล่าว เจ๋ง ดอกจิก อยู่ที่รัฐสภาก็ต้องไปจับที่รัฐสภา
นายอัครเดชกล่าวว่า ส่วนที่สังคมสงสัยว่าให้ เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งคณะทำงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 แต่ยังปรากฏภาพ เจ๋ง ดอกจิก เข้าร่วมประชุมคณะทำงานตรวจราชการคณะ 11 และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าต้องการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คนอื่นเข้ามาทำงาน จึงให้เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่ง สำหรับเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพราะมีผลต่อรูปคดี
ส่วนใครเป็นคนเชิญ เจ๋ง ดอกจิก เข้ามาทำงาน นายอัครเดชเลี่ยงที่จะตอบว่าใครเป็นคนชวนมา
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับคนที่นำเจ๋ง ดอกจิก เข้ามาที่พรรคบ้างหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า วันนี้ได้สอบถามเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้ คงจะมีการสอบถามอีกครั้งว่าใครเป็นคนพาเจ๋ง ดอกจิก เข้ามาในพรรค แต่เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เจ๋ง ดอกจิกเคยเป็นแกนนำเสื้อแดงและกลับใจในนามกลุ่มคนไทยรักชาติ และส่วนตัวไม่ได้รู้จักเจ๋งดอกจิก ไปเจอกันที่สภา
ถามว่าได้มีการร้องเรียนบุคคลทั้งสองเข้ามาที่พรรคก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ไม่มีเลย และพรรคไม่ได้ระแคะระคาย ถ้ามีก็คงดำเนินการ หัวหน้าพรรคคงไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะขนาดตอนนี้พอทราบเรื่องก็ได้ยกเลิกคำสั่งทันที เพราะฉะนั้นยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติมี 6 หมื่นกว่าคน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและผู้บริหารพรรค เมื่อทราบเรื่องก็พ้นจากตำแหน่งทันที เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เราไม่มีที่จะมายื้อ แสดงให้เห็นความจริงใจในการไม่ปกป้องคนผิดและสนับสนุนให้ตำรวจดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าที่ประชุมพรรควันนี้ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า เท่าที่ดูเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว นายอัครเดชยังได้นำเอกสารมาแสดงให้สื่อมวลชนดูประกอบด้วย เอกสารที่นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ตั้งแต่วันนี้ (30 มกราคม) และใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ น.ส.พิมณัฎฐาที่ขอลาออกในวันนี้เช่นกัน
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า ส.ส.และรัฐมนตรีจะส่งรายชื่อบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานมาให้ตรวจสอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยส่ง ถ้าตรงไหนมีการตั้งข้อสังเกตก็จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
เมื่อถามถึงบุคคลที่ชักนำนายเจ๋ง ดอกจิก ให้เข้ามาร่วมงาน นายเอกนัฏกล่าวปฏิเสธว่าขอไม่ไปตรงจุดนั้น ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็จะไปแก้ตรงนั้น