11 ต.ค. 2565 – นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กเสนอนิรโทษกรรมคดี ม.112 และบอกว่าการพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันฯเป็นเสรีภาพที่ทำได้ ไม่ใช่อาชญากรรม โดยนายเสกสกล ยืนยันว่าการพูดถึงสถาบันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้อยู่แล้ว หากเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่หากมีเจตนาที่จะพูดจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน ก็ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย และต้องได้รับโทษอยู่แล้ว
นายเสกสกล กล่าวว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ไม่ได้อยากให้มีการปฎิรูปสถาบัน เพราะะคนส่วนใหญ่ของประเทศ รู้ดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ประชาชนเคารพเทิดทูน เป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั้งประเทศมาโดยตลอด จะมีก็เพียงแต่นายธนาธร และกลุ่มสามกีบ ที่อยากจะปฏิรูปสถาบันเพื่อประโยชน์ของตัวเองที่จะได้ออกมาพูดก้าวล่วงสถาบัน แต่ไม่อยากถูกลงโทษตามกฎหมาย
“หากไม่อยากถูกดำเนินคดี ก็อย่าออกมาพูดเรื่องสถาบันในลักษณะก้าวล่วง จาบจ้วง แต่หากพูดไปแล้วก็ต้องยอมรับในกติกาและกฎหมายของบ้านเมือง อีกทั้งคนทั้งประเทศก็อยู่ได้ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนทำมาหากินได้อย่างปกติสุข สถาบันไม่เคยไปรังแกประชาชนหรือทำให้ใครเดือดร้อน ประชาชนส่วนใหญ่อยากจะปฏิรูปสถาบันเลยสักนิด นอกจากนายธนาธร คนของคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกลเท่านั้น ดังนั้นขออย่าเหมารวมคนทั้งประเทศ
พร้อมกันนี้ตนเองยังอยากให้ประชาชนพิจารณาให้ดีว่ากลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ มีความหวังดีต่อสถาบันหรือประเทศหรือไม่ เพราะตนเองก็เห็นว่าวันๆไม่ได้ทำอะไรมีแต่ออกมาเรียกร้องเรื่องสถาบันไม่หยุด ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าสถาบันไปทำอะไรให้คนเหล่านี้เดือดร้อน ครอบครัวนายธนาธร ร่ำรวยขึ้นมาได้ทุกวันนี้ เพราะอาศัยทำมาหากินอยู่บนผืนแผ่นดินไทยที่ราชวงศ์ที่ผ่านมาได้เสียสละเลือดเนื้อพลีชีพ ปกป้องรักษาไว้ให้คนไทยมีผืนแผ่นดินอยู่อาศัยทำมาหาเลี้ยงชีพ จนครอบครัวนายธนาธร กลายเป็นเศรษฐีตราบจนทุกวันนี้ ทำไมไม่มีสมอง หรือมีจิตสำนึกในบุญคุณราชวงศ์บ้างเลยหรืออย่างไร คนประเภทนี้ไม่เรียกว่าเนรคุณแผ่นดิน แล้วจะเรียกว่าอะไรดี” นายเสกสกล กล่าว