6 เม.ย.64 – ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวบรรยายถึงรายละเอียดในร่างเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ของกิจกรรม “ขอคนละชื่อ รื้อระบอบประยุทธ์” ที่เครือข่าย “Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่” จัดขึ้น
นายปิยบุตร ระบุถึงการแก้ในครั้งนี้ มุ่งขจัดระบอบประยุทธ์และสิ่งกีดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยมีข้อเสนอ อาทิ กำหนดให้รองประธานสภาฯ 1 คน มาจากฝ่ายค้าน, ประธานคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรัฐบาลต้องเป็นฝ่ายค้าน, ตั้งคณะผู้ตรวจการกองทัพจาก ส.ส. เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายงบกองทัพ รายได้กองทัพไปอยู่ที่ไหน และเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนของทหารชั้นผู้น้อย เมื่อประสบความไม่เป็นธรรมหรือถูกละเมิดสิทธิร้ายแรง และคัดเลือกผู้ตรวจการกองทัพเป็นสมาชิกสภากลาโหมโดยตำแหน่ง
นายปิยบุตร กล่าวถึงข้อเสนอโละศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ด้วยเหตุผลเนื่องจากไม่อิสระ เป็นจุดเดิมพันทางการเมืองของทุกฝ่าย ฝ่ายยึดได้รอดทุกคดี เป็นเครื่องมือในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม จึงกำหนดให้ ส.ส. มีส่วนเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระ ด้วยเสียง 2 ใน 3 ของ ส.ส.
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอในการตั้งคณะผู้ตรวจการศาล ซึ่งไม่ใช่การแทรกแซงศาล มีหน้าที่วิเคราะห์ผลกระทบจากคำพิพากษา เป็นแนวทางในการวิจารณ์ตรวจสอบคำพิพากษา และหากมีข่าวลือ สามารถเชิญประธานศาลฎีกามาชี้แจงได้ ส่วนเรื่องมาตรฐานจริยธรรมนั้น ไม่ใช่เกณฑ์กฎหมาย มาตรฐานจริยธรรมควรให้แต่ละองค์กรว่ากันเอง ตรวจสอบกันเอง สำหรับผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ยุบรวมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเมื่อร่างแก้ไขฉบับนี้ประกาศใช้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการอิสระชุดปัจจุบันให้พ้นจากตำแหน่ง กลับไปเริ่มใหม่
นายปิยบุตร กล่าวถึงข้อเสนอล้างมรดกรัฐประหาร ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 279 ที่รับรองประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), การนิรโทษกรรมตัวเองหลังการรัฐประหารให้เป็นโมฆะ เพื่อดำเนินคดีต่อคณะรัฐประหาร, กำหนดให้การต่อต้านรัฐประหารเป็นหน้าที่ และห้ามศาลรับรองการรัฐประหาร
ช่วงท้าย นายปิยบุตร ได้กล่าวถึงกรณีบางคนบอกว่าการล่ารายชื่อครั้งนี้เสียเวลา เพราะเดี๋ยว ส.ว.ก็คว่ำ โดยระบุว่า เราจำเป็นต้องทำ ไม่ทำจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ปล่อยให้เขากินรวบประเทศ ตนไม่ทราบว่าอนาคตจะผ่านหรือไม่ ถ้าได้ถึง 1 ล้านชื่ออาจจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ถ้า ส.ว.ยังไม่แยแสอีก การเมืองจะเปลี่ยน 1 ล้านคนจะไม่ยอมให้ ส.ว. 250 คนมาขี่คอทั้งชีวิต การรณรงค์เราเดินทุกนาที เรารู้รณรงค์ยาก แต่การนั่งเฉยโอกาสไม่มีทางมาถึง ต้องสร้างโอกาสทุกวันเท่าที่ทำได้ การลงชื่อ 1 สิทธิ์ 1 เสียง เป็นประชาธิปไตยทางตรง ท้ายสุดเสียงประชาชนจะชี้ขาดปรากฏให้เห็นผ่านชื่อ