นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายพรรคการเมือง 2560 ในการแจ้งไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคฯมีมติที่เด็ดขาดตามข้อบังคับพรรคฯ กรณีที่อดีตรองหัวหน้าพรรคฯถูกกล่าวหาและฟ้องต่อศาลว่าทำอนาจารและข่มขืนหญิงอื่นหลายราย อันเกี่ยวข้องกับมาตฐานทางจริยธรรมนั้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากข่าวที่ปรากฎเป็นการทั่วไปเกี่ยวกับรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รายหนึ่ง ซึ่งต่อมาเจ้าตัวที่ถูกกล่าวอ้างถึงคือ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ได้ออกมาปฏิเสธ หลังถูกกล่าวหาจากผู้เสียหายที่เป็นหญิงจำนวนมากว่า ได้กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุมากกว่า 15 ปีและข่มขื่นกระทำชำเรา โดยเจ้าทุกข์ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สน.ลุมพินีแล้ว
แต่เนื่องจากตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ 2561 ข้อ 19(2)(4) ข้อ 24 ถึง 28 ประกอบข้อ 115 หากฝ่าฝืนคณะกรรมการบริหารพรรค มีอำนาจมีมติขับให้ผู้ฝ่าฝืนออกจากสมาชิกพรรคได้ และถึงแม้นายปริญญ์จะประกาศลาออกทุกตำแหน่งภายในพรรคประชาธิปัตย์แล้วก็ตาม แต่ความเป็นสมาชิกพรรคยังไม่ปรากฏว่าลาออกแล้วหรือไม่
ดังนั้นจึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องดำเนินการตาม ม.22 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 โดยเร่งแจ้งให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคโดยเร็ว ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดำเนินการใดๆ และไม่แจ้งให้เลขาธิการกกต.ทราบภายใน 7 วันนับแต่มีมติ เลขาฯ กกต.จะต้องแจ้งให้ คณะกรรมการ กกต.เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้ คณะกรรมการบริหารพรรค อาจพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้ และห้ามกลับมาเป็นดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองอีกจนกว่าจะพ้น 20 ปีไปแล้ว