ในเชิงยุทธศาสตร์โลกแล้ว มหาอำนาจกำลังเร่งเกมส์ในยกสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ สงครามจึงปะทุหนัก รุนแรงทั้งตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ และพม่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้แรงงานคนเป็นทหาร
การรุกเอเซีย ทั้งฝ่ายสหรัฐ และอังกฤษ ที่ประมุขของแต่ละชาติ เตรียมเดินสายปลุกเข้าร่วม อังกฤษ จะเดินสาย สิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย อดีตประเทศในอาณานิคมเครือจักรภพ สหรัฐจะเดินสาย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ ฟิลิฟปินส์ ประเทศในอาณานิคม เพื่อปลุกให้ชาติในเอเซียรุมกินโต๊ะจีน ก่อสงครามขึ้น
เหมือนการแบ่งแยกอาหรับ แยกมุสลิมออกจากกัน แล้วให้รบกันเอง อ้างความขัดแย้งทางศาสนา ทั้งสุหนี่ และชีอะห์เพื่อขายอาวุธ
เป้าหมายเพื่อแย่งชิงแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย บริเวณหมู่เกาสแปรชรี่ ในทะเลจีนใต้ เพื่อบีบขอแบ่งปันผลประโยชน์น้ำมัน แก๊ส มูลค่ามหาศาล ร่วมกับจีน ประเด็นเกาหลีเหนือจึงเป็นเพียงข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมในการรุกราน เอเซียเป็นสำคัญ
ไทยจึงควรถอยห่างความขัดแย้งในยกสุดท้ายนี้ เพราะมันเป็นความจัดแย้งของชาติอื่น มิใช่ความขัดแย้งของชาติไทย การไปจุ้นวุ่นวาย ทำตัวอยากเสนอให้เป็นคนกลาง ย่อมชักนำพาภัยมายังชาติ โอกาสนำชาติเข้าสู่สงครามจึงสูง
ประวัติศาสตร์นับร้อยปีที่ผ่านมาคงเป็นบทพิสูจน์ว่า การไปจุ้นวุ่นวายกับมหาอำนาจ เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศย่อมเข้าสู่ความวิบัติ ผู้คนชายหญิงต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ต้องกลายไปเป็นทหารรบแทนพวกฝรั่ง จนหลายครอบครัวล้มลง ขาดสะบั้น เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้นำ
เกมส์ที่มหาอำนาจเล่นอยู่มันเป็นเพียงละครฉากใหญ่ระดับโลก ที่ต้องการเพียงผลประโยชน์ในการขายอาวุธ แย่งชิงพลังงาน ใช้แรงงานคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหลอกให้ประเทศโง่ๆ ยกหาง เอาประโยชน์เข้าล่อ ให้เข้าร่วมรบ ใช้เป็นสมรภูมิสงคราม ในลักษณะตัวแทน โดยไม่ไปใช้ประเทศตนเองเป็นสนามรบ
นี้คือความชาญฉลาดแกมโกง ของมหาอำนาจ ที่ยึดประโยชน์ของชาติตนเองเป็นสำคัญ คนไทยจึงต้องรับรู้สิ่งเหล่านี้ และช่วยกันยับยั่ง การนำชาติเข้าสู่ความขัดแย้ง และสงครามในยกสุดท้าย ก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นสงครามอีกรูปแบบหนึ่งในปี 2561 หลัง 15 มกราคม เป็นต้นไป
“อย่าเอาความขัดแย้งของชาติอื่น มาเป็นความขัดแย้งของชาติไทย”
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
5 ตุลาคม 2560