ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ไม่จริง ! เว็บสหรัฐปล่อยข่าว กล่าวหาตุลาการรับสินบนช่วยโตโยต้า

#ไม่จริง ! เว็บสหรัฐปล่อยข่าว กล่าวหาตุลาการรับสินบนช่วยโตโยต้า

4 April 2021
728   0


จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวโดยอ้างถึงข้อมูลซึ่งมีการแปลจากเว็บไซต์ต่างประเทศ (LAW 360 ของสหรัฐอเมริกา) ระบุถึงเรื่องการสอบสวนในต่างประเทศของบริษัทในเครือโตโยต้า เกี่ยวกับการจ่ายสินบนในคดีภาษีนำเข้ารถยนต์และมีการพาดพิงถึงบุคลากร (อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาฎีกา) ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ ประการแรก คดีที่มีการอ้างถึงนั้นเป็นคดีที่บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐที่จัดเก็บภาษี เป็นจำเลย เนื่องจากการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประกอบเป็นรถยนต์รุ่นพรีอุส ซึ่งฝ่ายโจทก์มีคำขอให้เพิกถอนการประเมินและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของหน่วยงานที่จัดเก็บภาษี ศาลภาษีอากรกลางซึ่งเป็นศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เป็นผลให้บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โจทก์ไม่มีความรับผิดทางภาษีอากร ต่อมาหน่วยงานของรัฐที่จัดเก็บภาษีซึ่งเป็นจำเลยในคดีได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลาง และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ เป็นผลให้โจทก์ต้องรับผิดชำระภาษีอากรตามการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ 

โจทก์จึงยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ฎีกาและรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณา โดยศาลภาษีอากรกลางได้อ่านคำสั่งคดีขออนุญาตฎีกาไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างศาลภาษีอากรกลางดำเนินการให้ฝ่ายจำเลยยื่นคำแก้ฎีกา หลังจากนั้น ศาลภาษีอากรกลางจะรวบรวมสำนวนส่งคืนศาลฎีกาเพื่อพิจารณาต่อไป 

ดังนั้น ในคดีนี้ศาลฎีกาจึงยังไม่ได้พิจารณาพิพากษาคดี เพียงพิจารณาคำร้องขออนุญาตฎีกาเท่านั้น ซึ่งการอนุญาตให้ฎีกาเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ป.วิ.พ.) มาตรา 249 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 26 ที่กำหนดให้ศาลฎีกาพิจารณาอนุญาตให้ฎีกา เมื่อเห็นว่าปัญหาตามฎีกานั้นเป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่พิจารณาเพียงว่าปัญหาที่ยื่นฎีกานั้นเป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาสมควรอนุญาตให้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาหรือไม่ โดยยังไม่ได้มีการพิจารณาเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแห่งคดีแต่อย่างใด 

สำหรับคดีในกลุ่มบริษัท โตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ทั้ง 10 สำนวนนั้น มีทุนทรัพย์รวมกันกว่า 10,000 ล้านบาท นั้น คำพิพากษาของศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ขัดแย้งกันในสาระสำคัญ ทั้งเกี่ยวพันกับความตกลงระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันกับประเทศไทย และยังเป็นกรณีที่ไม่มีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกามาก่อน คำสั่งอนุญาตให้ฎีกาจึงเป็นไปตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 26

ประการที่สอง พฤติการณ์ของการแอบอ้างหรือกล่าวหาว่า อาจมีการจ่ายสินบนให้ผู้พิพากษานั้นเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งอาจไม่มีมูลความจริงอยู่เลย แต่ก็สร้างความเสียหายและความคลางแคลงใจในหมู่ประชาชนและสังคมโดยรวมทันทีที่มีการออกข่าวหรือแอบอ้างว่ามีการจ่ายและรับสินบน ดังนั้น การให้ข่าวลักษณะนี้ควรมีการตรวจสอบให้ชัดเจนในระดับหนึ่งก่อน

ประการที่สาม หากศาลยุติธรรมได้รับข้อมูลหรือสามารถตรวจสอบได้อย่างแน่ชัดว่าผู้พิพากษาท่านใดกระทำการอันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการรับสินบนหรือไม่ ศาลยุติธรรมโดยคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมก็จะดำเนินการตรวจสอบและลงโทษอย่างเด็ดขาดกับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา ทำลายความเป็นกลางของศาล และทำให้สังคมไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย ที่ผ่านมา ก.ต.ก็ดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาดกับกรณีเช่นนี้มาโดยตลอด จึงขอแจ้งให้ทราบทั่วกันเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง