1 ก.ค.2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.09 น. การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ซึ่งเป็นการพิจารณาครั้งที่ 6 โดยเริ่มจากมาตรา 120 ซึ่งภาพรวมการพิจารณาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จนกระทั่งเวลา 10.35 น.มาตรา 143 ระบุว่า ให้อำนาจฝ่ายบริหารออกกฎกระทรวง กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบตำรวจ โดยพ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นเพิ่มวรรคสอง ระบุว่า ข้าราชการตำรวจทุกเพศ มีสิทธิ เสรีภาพ ในการไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้โดยสุภาพเรียบร้อย การออกกฎระเบียบ คำสั่ง ให้จำกัดสิทธิเสรีภาพได้เท่าที่จำเป็น เพื่อความสุภาพเรียบร้อยเท่านั้น จะเห็นว่าไม่ได้เป็นการให้สิทธิเสรีภาพทรงผม แต่ยังคงให้อำนาจฝ่ายบริหารจำกัดสิทธิเสรีภาพตำรวจในการไว้ทรงผมได้เท่าที่จำเป็น เพราะทรงผมสุภาพเรียบร้อยมีหลายทรงไม่ใช่แค่ทรงขาวสามด้าน การที่ตนเสนอวรรคนี้เพื่อให้ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจ เมื่อแต่งกายชุดข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 ข้อที่ให้ข้าราชการตำรวจชายต้องตัดผมสั้นด้านข้างขาวทั้ง 3 ด้าน ด้านบนยาวได้ไม่เกิน 3 ซม. ที่ออกโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ให้มีผลถูกยกเลิกไปโดยปริยาย เป็นการทวงคืนทรงผมให้ตำรวจ เหตุผลที่ต้องเสนอเพิ่มในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากประเด็นนี้สำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นครอบคลุมทุกมิติ เป็นการเปลี่ยนแปลงให้สิทธิความเป็นธรรมแก่คนหน้างาน การทวงคืนทรงผมถือเป็นการปฏิรูป เดิมผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจสั่งการจำกัดสิทธิผู้ใต้บังคับบัญชาเกินความจำเป็น ทำให้อึดอัดทำลายคุณค่า ทำลายความมั่นใจ ซึ่งเป็นปัญหา จึงต้องปรับปรุงให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น
“ผมเคยอยู่ทันคำสั่งทรงผมบ้าบอๆของผบ.ตร.เป็นปีๆก่อนจะลาออกมา ผมเห็นปัญหาต่างๆขององค์กรตำรวจมาตลอด ข้องใจมาตลอดว่าระบบราชการทำไมห่วยขนาดนี้ โดยเฉพาะตำรวจแย่กว่าองค์กรอื่นๆ ยิ่งมีรัฐประหาร ยิ่งทำให้องค์กรตำรวจย่ำแย่หนัก คำสั้งทรงผมขาว 3 ด้าน ช่วงแรกที่สั่งมาตำรวจไม่ทำตามยื้อมาได้ครึ่งปี ผบ.ตร.ที่บ้าอำนาจไม่สามารถบังคับได้ สุดท้ายใช้วิธีเชือดไก่ให้ลิงดู เอาตำรวจกลุ่มหนึ่งไปธำรงวินัย แล้วทำไอโอส่งไปตามกลุ่มไลน์ตำรวจให้เกิดความกลัว เป็นบรรยากาศของการถูกบังคับสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ความคิดสร้างสรรค์ในองค์กรหดหาย ซึ่งตำรวจไม่ใช่ต้องทำตามคำสั่งจากความหวาดกลัวของคนหัวโบราณ” พ.ต.ต.ชวลิต กล่าว
พ.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า อย่ามองว่าการทวงคืนทรงผมเป็นการท้าทายอำนาจคนสั่งการ แต่ถ้าไม่ส่งเสียงให้ผู้มีอำนาจรู้เราก็ต้องจมกับความเดือดร้อนต่อไป เรื่องทรงผมของข้าราชการตำรวจชาย ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิงคงเหมือนการห้ามแต่งหน้าออกจากบ้านตลอดเวลาเป็นแบบนี้ไปจนเกษียณ ทรงผมแบบนี้สร้างความไม่มั่นใจ สร้างความแปลกแยกจากประชาชนทั่วไป คำสั่งแบบนี้มีแต่จะสร้างความเหินห่างไม่ใช่พวกเดียวกับประชาชน
“อย่างไรก็ตาม หากข้อเสนอนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝากบอกว่าอีกไม่กี่เดือนจะเลือกตั้ง ถ้านายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี วันแรกคำสั่งประเภทที่กดทับฉุดรั้งข้าราชการ คำสั่งให้ตัดผมขาว 3 ด้านของข้าราชการตำรวจจะถูกเซ็นยกเลิก ในวันที่นายพิธารับตำแหน่งวันแรกแน่นอน” ส.ส.พรรคก้าวไกลระบุ
ด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ในฐานะกมธ.ฯ ชี้แจงว่า ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ค่อยเป็นคำถามสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ตอบจะเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ไม่มีการบังคับ ไม่มีการทรมาน ตำรวจไว้ผมยาวคงไม่ถูกจับไปทรมานถ้าไม่ตัดผมสั้น ตนขอพูดเพียงสั้นๆว่า “เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ คุณไปบวชไม่โกนหัวได้หรือไม่”
จากนั้น ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับร่างเดิมของกมธ. ด้วยคะแนน 382 ต่อ 19 งดออกเสียง 2 และไม่ลงคะแนน 7 เสียง