วันที่ 21 ม.ค.65 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายซูการ์โน มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา152 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนมตรี ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีผู้เข้าชื่อทั้งหมด 173 รายชื่อ จาก 7 พรรคการเมือง ซึ่งมีประเด็นที่จะอภิปรายม 4 เรื่อง 1 .เรื่องวิกฤตข้าวของแพงค่าแรงถูกของแพงทั้งแผ่นดิน 2.เรื่องโรคระบาดโควิดและอหิวาต์ในสุกร ASF 3.วิฤกตทางด้านการเมืองยุคการเมืองใช้เงินเป็นหลัก 4.ล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดินมากมาย เช่นเรื่องปัญหายาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชั่น ภาวะฝุ่นพิษ PM 2.5 และการค้าการลงทุน อย่างไรก็ตามในส่วนของเวลาเราได้ใช้แนวทางของปีที่แล้วเป็นหลัก เราจึงขอเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชม.เพื่อให้เวลาสมาชิกได้อภิปรายได้เต็มที่ คาดจะเป็นช่วงวันที่ 16-18 ก.พ.
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านคาดหวังกับการอภิปรายทั่วไปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ กล่าวว่า โดยเนื้อหาสาระยากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองในสภาได้ สาระที่เราเสนอเป็นข้อเท็จจริงที่บอกพี่น้องประชาชนโดยตรงผ่านสภาในสิ่งที่เขาจะรู้เห็นข้อเท็จจริงที่ปรากฎขึ้นที่ทำให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ฉะนั้นจะนำเรื่องนี้มาบอกต่อประชาชน โดยนำความเดือดร้อนโดยตรงจากรัฐบาลมากดดัน เพราะตอนนี้มีภาคประชาชนเริ่มออกมาเรียร้องในทุกๆกลุ่มอาชีพ เราคาดว่ารัฐบาลน่าจะรับฟังเสียงของเราในสภาและพี่น้องประชาชน
ด้านนายชวน กล่าวว่า ได้หารือภายในเมื่อวัน 19 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้วว่าญัตติดังกล่าวจะเสนอในช่วงนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะอภิปรายกลางเดือนก.พ. ส่วนระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายนั้นให้ตัวแทนผู้ควบคุมเสียงทั้งสอง 2 ฝ่ายหารือกันต่อไป ซึ่งญัตติดังกล่าวหนึ่งปีจะทำได้เพียงหนึ่งครั้ง แต่กรณีม.152 เป็นการเสนอเพื่อสอบถามให้คำแนะนำรัฐบาลไม่ถึงขั้นไม่ไว้วางใจ แต่โดยปฎิบัติก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านได้คุยกันแล้วว่าจะรักษามาตรฐานสภา จากนี้จะนำญัตติดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อต่อไป