ดร.สุกิจ พูลศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้โพสข้อความระบุว่า
ศาลรัฐธรรมนูญ”ชี้”พล อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
________________\\\\\\\\\ ______________
โดยสุกิจ พูนศรีเกษม นักวิชาการด้านกฏหมาย ศึกษาในกรณีประทานบัตรเหมืองทองคำของบริษัทอัคราฯ นั้น
บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ชนะประมูล ได้สิทธิสัมปทานการขุดเหมืองแร่ทองคำชาตรีใต้ ในปี 2543 พื้นที่ 1,259 ไร่ ระยะเวลา 20 ปีที่ สิ้นสุดวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ชาตรีเหนือ ได้สิทธิสัมปทานเพิ่มเติมใน พื้นที่ 2,466 ไร่ ระยะเวลา 20 ปีวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 – 20 กรกฎาคม 2571
แต่ว่าตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2559 ได้ถูกเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่สัมปทานเหมืองล้วนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการสร้างปัญหามลพิษปัญหาสุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อม มีการเคลื่อนไหวคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่และหยุดกิจการเหมือง
พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งโดยใช้อำนาจ มาตรา 44 ปิดเหมืองทองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด
หากเราต้องเสียค่าโง่เหมืองทองคำจริงๆ ใครจะต้องเป็นผู้ควักเงินจ่าย
ได้มีการถกเถียงกันในกระแสสังคม โชเชียลเนตเวอร์ เฟสบุ๊คและยูทูป
ว่า เมื่อพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ไม่ใช่”เจ้าหน้าที่ของรัฐ”
ทำไม่รัฐบาลต้องค่าค่า”โง”ให้กับ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ประทานบัตรเหมืองทองคำของ
บริษัทอัคราฯ นั้น โดยแท้จริงแล้ว แม้หัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม “ทำไม่รัฐบาลไทยต้องจ่ายเงิน”แทนบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐอันนี้เป็นปัญหาที่สังคมสงสัย
แท้จริงๆแล้ว พลอ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.”แม้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ” แต่พล อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ทำในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทยที่ได้ยึดอำนาจมาบริหารประเทศ รัฐบาลไทยจึงต้องรับผิดในทางละเมิด หาใช่ พลเอกประยุทธฯต้องรับผิดในฐานะส่วนตัวไม เป็นกรณีศึกษา