โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ประณามเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดสดเมืองยะลา สุดโต่งไร้ซึ่งมนุษยธรรม ขอประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ยืนยันรัฐจะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้แต่จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ตลาดสดรถไฟ (ตลาดพิมลชัย) เขตเทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนรายได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรง ด้วยการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย
และบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย ในนามของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทางพี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต้องขอแสดงความเสียใจ กับญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต และปัจจัยดังกล่าว พร้อมทั้งขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณาม ในเรื่องของพฤติกรรมอันสุดโต่ง และชั่วร้าย ของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางท่านรองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ได้รับรายงานในเบื้องต้น และได้มีการสั่งการมายังท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เร่งรัดดำเนินการสองเรื่องใหญ่ๆ คือ การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดยะลา ได้มาจากตั้งศูนย์รับเรื่องยาในพื้นที่อยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังได้เร่งรัดในการติดตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น ขณะนี้พอจะทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คิดว่าในการที่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ คงจะไม่ยากเกินไปที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลและช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตลอดที่ผ่านมาในเขตเทศบาลนครยะลาได้ปราศจากเหตุร้ายมาเป็นเวลานาน เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ได้สร้างความรู้สึกสะเทือนใจ และสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ว่าทางคนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐจะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้อย่างเด็ดขาด เราจะใช้มาตรการทางกฎหมาย สำหรับญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็ขอให้ได้มาแจ้งยังศูนย์รับแจ้งเหตุของจังหวัดยะลา ซึ่งขณะนี้ได้เปิดทำการเรียบร้อยแล้ว” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าว
โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คงเป็นกลุ่มเดิมเดิมที่เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ในส่วนการวางระบบรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมือง ได้มีการกำหนดเขตพื้นที่ไว้ 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนที่ 1 คือโซน Safety Zone ซึ่งมีการวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับที่เกิดเหตุ ณ จุดนี้เป็นพื้นที่วงรอบเส้นกลาง ซึ่งจะใช้การรักษาความปลอดภัยในภาพรวมทั่วไป ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
สำหรับบริเวณ ที่เกิดเหตุในครั้งนี้ก็คือ บริเวณกลางตลาดพิมลชัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของในตลาด ดังนั้นในเรื่องของการตรวจจะมีข้อจำกัด โดยคนร้ายก็เลือกอาศัยจังหวะช่องว่างส่วนนี้มาก่อเหตุ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า ทางกลุ่มคนร้ายยังไม่เคยละความพยายาม ที่จะดำเนินการอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ ในเรื่องแรกคือ การทำลายชีวิตของประชาชน โดยไม่เลือกเป้าหมาย และการทำลายทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
เรื่องที่ 2 การทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลอยู่ในระหว่างการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง และเรื่องที่ 3 คือ การทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ เพราะฉะนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สติในการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่ว่าเมื่อคนร้ายไม่ทำร้ายพี่น้องประชาชนแล้วไปตีความว่าเขาไม่เคยทำร้ายประชาชน อยากให้มองย้อนกลับไป เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อหลายพันคน
.“ซึ่งจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง รวมทั้งเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน รู้ทั้งรู้ว่าพื้นที่ในตลาดมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่เขายังเลือกที่จะก่อเหตุในบริเวณนี้และเวลานี้ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเป็นความพยายามเดิมของกลุ่มคนร้าย ที่มุ่งที่จะทำร้ายประชาชน” พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
Cr.mgr
สำนักข่าววิหคนิวส์