ทั้งนี้ทำให้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 คณะประชาชนปลดแอก จัดกิจกรรมชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาย่านเกียกกายเพื่อกดดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูรั้วฝั่งทางเข้ารัฐสภาและให้ใช้การสัญจรเข้า-ออกช่องทางเดียว ในฝั่งของทางออกเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมนำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง มาตั้งขวางทางเข้าเพื่อเป็นเวทีปราศรัย ขณะที่รถยนต์ของสมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในได้นำรถยนต์ออกจากอาคารรัฐสภาเป็นระยะ
เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนสามเสนตั้งแต่แยกบางกระบือถึงแยกเกียกกายแล้ว เพราะมีผู้ชุมนุมมาร่วมมากขึ้น หลังการปิดถนน แกนนำได้เคลื่อนรถขยายเสียงที่ใช้เป็นเวทีปราศรัยที่จอดขวางประตูทางเข้ารัฐสภา ไปจอดขวางถนนสามเสนแทน และนำผ้าสีขาวมาผูกหน้าประตูรัฐสภาฝั่งขาเข้า พร้อมกับทำกิจกรรมต่อโดยมีการแจกสติกเกอร์หมุดคณะราษฎร์ 2 ให้กับผู้ที่มาร่วมชุมนุม และพ่นสีสเปรย์รูปหมุดสีทองลงบนพื้นถนนเพื่อทำสัญลักษณ์ด้วย
เวลา 19.15 น.หลังรถเวทีปราศรัย แกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก ใช้โทรโข่งประกาศของแรงชายฉกรรจ์ 100 คน เพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่าง จากนั้นได้นำมวลชนปิดบริเวณสี่แยกเกียกกาย โดยประกาศว่าไม่ให้ สว.เข้า-ออก และให้กลับไปโหวตญัตติ โดยใช้แผงเหล็กกั้น ทั้งมีการตรวจสอบรถที่วิ่งออกมาเพื่อตรวจสอบว่าไม่มี สว.ออกนอกพื้นที่
ขณะที่หลังปิดประชุมสภา ผู้ชุมนุมกำลังแยกย้ายกันกลับ บริเวณแยกเกียกกาย บรรดา ส.ส.พรรคก้าวไกล นำทีมโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร น.ส.เบญจา แสงจันทร์ เดินเท้าชู 3 นิ้ว ออกมาพบปะกับผู้ชุมนุม โดยนายพิธา กล่าวกับมวลชนว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ วันนี้ออกมาแสดงพลังประชาชน พลังประชาธิปไตย ที่ทำให้ตนได้มีโอกาสอภิปรายเรื่องแก้รัฐธรรมนูญแล้ว
นอกจากนี้ นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า แล้ววันนี้ได้พา ส.ส.ของพรรค ออกมาขอโทษประชาชน ที่ไม่สามารถผลักดันญัตติแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จได้ รู้สึกผิดหวังเพราะพยายามหาทางออกให้ประเทศ ประชาชน ประชาธิปไตย รวมทั้งหาทางออกให้รัฐบาลและส.ว.แต่เสียใจที่ส.ว.ไม่รับไมตรีจิตตรงนี้ แม้จะผิดหวังแต่คนพรรคก้าวไกลจะไม่สิ้นหวังในการแก้ปัญหาให้ประชาชน แม้ครั้งนี้จะไม่ยอมแก้ไขมาตรา 265 แต่ในครั้งหน้าจะแก้ไขมาตรา 269 ยกไปให้หม