#คดีสนามบินสุวรรณภูมิ

วันนี้(14/9/60) เปิดศาลไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีจำเลยนอนป่วยในโรงพยาบาลหนึ่งท่าน คือ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ

กะว่าจะได้สืบพยานฝ่ายโจทก์ต่ออีกครึ่งปาก จากคราวที่แล้วที่สืบไม่เสร็จ ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มไปได้ปากแรกปากเดียว
คดีนี้เป็นคดีใหญ่โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต จึงสืบพยานลับหลังจำเลยไม่ได้
จำเลยก็มาก ร่วมร้อย พยานทั้งสองฝ่ายก็อีกนับร้อยปาก ทนายที่เข้ามาว่าความก็หลายสิบ การนัดพร้อมก็ยาก มาแล้วก็ไม่ครบ ก็เปิดศาลไม่ได้ คดีคงยืดยาว
สังเกตุได้ว่าคดียิ่งนานไป จำเลยก็มีอายุมากขึ้น ค่อยๆสูงวัย บ้างก็เจ็บป่วย บ้างก็เสียชีวิตระหว่างทาง
คดีนี้เริ่มเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2551 มาตั้งรูปคดีสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับสุเทพ เทือกสุบรรณ เถียงกันระหว่างนายตำรวจหัวหน้าคดี ระหว่างการตั้งรูปคดีให้เป็น”ผู้ก่อการร้าย” หรือ”ผู้ก่อการดี” สุดท้ายนายตำรวจที่อยากให้ตั้งรูปคดีเป็น”ผู้ก่อการดี” ต้องถูกย้ายออกไป พวกเราจึงกลายเป็น”ผู้ก่อการร้าย” ที่มีโทษสูงสุดถึง”ประหารชีวิต”

ทั้งที่ผลที่เราไปสนามบินเพียงเพื่อกดดันรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค 3 พรรค มีพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคพลังประชาชน
เป็นอันยุติการชุมนุม มวลชนนับหมื่นแยกย้ายกันกลับบ้าน สนามบินไม่เสียหายอะไรเลย โดยเฉพาะส่วนร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) และลานบินก็ไม่มีมวลชนลงไปในลานบิน ที่จะเป็นอุปสรรคการบินขึ้นลงของเครื่องบิน
การปิดสนามบิน ก็เพราะผู้ว่าการท่าฯสั่งปิด ด้วยความตื่นกลัวไปเอง แทนที่จะสั่งเครื่องบินไปขึ้นลงสนามบินนานาชาติ ที่มีอยู่เต็มประเทศ ใกล้สุดสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสามารถรับผู้แสวงบุญไปมักกะฮ์ ก่อนสนามบินซาอุดีอาระเบีย จะปิดน่านฟ้า ได้ทันเวลาในที่สุด หลังจากที่ผู้ว่าการท่าฯใช้อำนาจสั่งปิดสนามบินกระทันหัน ทำให้เครื่องบินที่กำลังบินลงมารับผู้แสวงบุญต้องหันหัวกลับไปลงสนามบินอื่น

พธม.ดูแลผู้โดยสารที่ถูกทิ้ง และผู้แสวงบุญ อย่างดี จนได้รับคำชมเชย และไปแสวงบุญ ณ กะอ์บะฮ์ ได้ทันเวลา
วันนี้ คุณสนธิ ก็ดูสุขภาพดี ยกเว้นดวงตาที่มองไม่เห็นไปข้างหนึ่ง ลุงจำลองก็สุขภาพดีเช่นกัน แกนนำท่านอื่นก็ดูดีหมด รวมทั้งมวลชน ยกเว้นสุริยะใส ทำตัวเด็กกว่าวัย โดยตัดผมสั้นขึ้น อมรเพิ่งจบชั้น ม.6 กำลังเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาตรี ให้จบทันก่อนลูกที่กำลังเรียนที่สาธิตประสานมิตร จะโตทัน
ทุกคนดูมีอนาคตสดใส ทั้งที่เผชิญอยู่กับ”โทษประหารชีวิต” ใน”คดีผู้ก่อการร้าย”
ส่วนผมก็กลับไปเตรียมอนาคตให้กับเด็กๆที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก กาญจนบุรีร่วมกับแม่แอ๊วของเด็กๆ หลังจากทิ้งมาอยู่กับ พธม.เสียนาน
พิภพ ธงไชย