#คนดีต้องมีที่ยืน..!! รศ.ดร.สังศิต รับทราบข้อหา ปฏิเสธหมิ่นฯสตช.วิจารณ์ปฏิรูปตำรวจ

รศ.ดร.สังศิต ไปรับทราบข้อหาหมิ่นประมาท ปมร่วมวงเสวนา ‘ตำรวจไทย มีไว้ทำไม’ 6 ก.ค. นี้ อดีตแกนนำ กปปส.-พ.ต.อ.วิรุตม์ เดินทางร่วมให้กำลังใจ ภายหลัง ‘บิ๊กตู่’ เพิ่งตั้ง กก.ปฏิรูปตำรวจ

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2560 ในเวลา 13.00 น. ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยานวัตกรรมสังคม ม.รังสิต จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรณีร่วมอภิปรายในเวทีเสวนา ‘ตำรวจไทย มีไว้ทำไม’ โดย พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท และอดีตผู้กำกับหลายสถานี นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. และนายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์ประจำวิทยานวัตกรรม ม.รังสิต ไปร่วมให้กำลังใจด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2560 สน.ลุมพินี ได้ออกหมายเรียกตัว รศ.ดร.สังศิต และ พ.ต.อ.วรุตม์ ไปพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากถูกแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีร่วมอภิรายใสเวทีเสวนา ‘ตำรวจไทย มีไว้ทำไม’ จัดโดยองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งประเทศไทย (ACT) อย่างไรก็ดียังไม่ทราบว่า ตำรวจนำข้อความส่วนไหนไปเอาผิด

รศ.ดร.สังศิต เปิดเผยว่า ยินดีเข้ารับทราบข้อกล่าวหา แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหัวข้อ “ตำรวจมีไว้ทำไม” เป็นหัวข้อที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัด ซึ่งเป็นงานเสวนาเชิงวิชาการ และเห็นว่า องค์กรนี้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต จึงยินดีมาเป็นวิทยากรให้ และแสดงความคิดเห็น หรือแนวคิดและหลักการปฏิรูปตำรวจว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสถาบันแห่งนี้ ไม่มีการเยาะเย้ยถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนหน่วยงานหรือบุคคลใด ไม่ได้กล่าวถึงชื่อสำนักงานแห่งชาติ หรือชื่อนายตำรวจคนใดทั้งสิ้น อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ ก็มีหัวข้อเรื่องการปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี ซึ่งมีความสอดคล้องกับหัวข้อที่จัดเสวนา ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและนโยบายของรัฐบาล ส่วนคำพูดที่ว่า “ตำรวจมีไว้ทำไมนั้น” ตัวเองพูดในฐานะที่เป็นหัวข้องานเสวนา ทั้งนี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลฎีกาว่า ไม่สามารถหมิ่นประมาทองค์กรได้ หมิ่นประมาทได้เฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น

ด้านพ.ต.ท.โทศิริพงษ์ ระบุว่า ในฐานะที่ผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะมีการพิมพ์ลายนิ้วมือ แจ้งข้อหาให้ทราบ สอบประวัติและสอบปากคำ ก่อนที่จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และยินยอมเข้ามอบตัวเอง ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาส่งฟ้องภายใน 2 สัปดาห์ โดยตัวนายสังศิตต้องมารายงานตัวในวันส่งฟ้องด้วย โดยคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้นายวิทยา แก้วภราดัย พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต และตัวแทนสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยมาร่วมให้กำลังใจอีกด้วย