ย้อนอ่านคำพิพากษาคดีพันธมิตรฯ ชุมนุมดาวกระจายปี 51 ศาลชี้การชุมนุมพันธมิตรฯ เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและประโยชน์ชาติ ให้ประชาชนตื่นรู้สิทธิหน้าที่ เห็นการบริหารประเทศไร้คุณธรรม-ธรรมาภิบาล มีวาระซ่อนเร้น ไม่เข้าข่ายกบฏ รวมทั้งมีเหตุทำให้เชื่อระบอบทักษิณมีกลุ่มละเมิดสถาบันกษัตริย์อยู่จริง
news 1 – จากกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ค. คดีการชุมนุมในลักษณะ “ดาวกระจาย” เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551 โดยมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือนายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี เป็นจำเลยที่ 1-9 ในข้อหากบฎ และร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1-6 เนื่องจากศาลเคยพิพากษาในคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาลไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ส่วนจำเลยที่ 7-9 เห็นควรให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ที่น่าสนใจก็คือ ในคำพิพากษาระบุว่า “การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังทำให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมและประชาชนทราบว่ารัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช อยู่ภายใต้การครอบงำและสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และทราบถึงการกระทำของกลุ่มบุคคลในเครือข่ายระบอบทักษิณ รวมทั้งทราบถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรมและธรรมาภิบาลในการบริหารราชการบ้านเมือง มีวาระซ่อนเร้นและเป็นการกระทำที่ขัดผลประโยชน์หลายเรื่อง การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และการกระทำของจำเลยที่ 7-9 จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
อนึ่ง ข้อมูลที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปราศรัยระหว่างการชุมนุมปัจจุบันพบว่ามีมูลความจริงในหลายเรื่อง บางเรื่องมีการดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มบุคคลที่กระทำทำผิด และศาลได้พิพากษาลงโทษแล้ว ข้อมูลบางเรื่องต้องถือว่าเป็นประโยชน์และให้ความรู้แก่ประชาชน ทำให้ประชาชนตื่นรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเองมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้ประชาชนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มมากขึ้น และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เครือข่ายระบอบทักษิณมีกลุ่มที่ล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่จริง การกระทำของพวกจำเลยถือว่าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและประโยชน์ชาติในระดับหนึ่ง”
อ่านประกอบ : ศาลยกฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมดาวกระจายไล่ “รัฐบาลสมัคร” ปี 51