23 กรกฎาคม 2560 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่มีการขอให้นายกรัฐมนตรีส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า
เมื่อพิจารณาเนื้อหาสาระจากร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้แล้ว ไม่เห็นว่ามีอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรีก็คงไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเมื่อนายกฯ สดับตรับฟังเหตุผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.ป.นี้จากภาคส่วนต่างๆ ก็คงเห็นพ้องต้องกันว่าไม่น่าจะมีส่วนไหนที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นกัน
สำนักข่าวตรงประเด็น – สาระสำคัญของร่าง พ.ร.ป.นี้ที่มีการพูดถึงกันมากคือ
1. พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ก็เป็นกรณีที่ศาลรับฟ้องไว้แล้ว และมีหมายเรียก แต่จำเลยไม่มาศาล จนต้องมีการออกหมายจับแต่จับจำเลยไม่ได้ภายใน 3 เดือน นับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้ โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย
2. การหนีคดีไม่ว่าจะหนีในชั้นพิจารณาคดี หรือหลังศาลมีคำพิพากษา ไม่ให้นับอายุความ
จากสาระสำคัญดังกล่าว ทำให้ร่าง พ.ร.ป.นี้มีจุดเด่นที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ
1. เพิ่มศักยภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น
2. ทำให้นักการเมืองส่วนหนึ่งที่ใช้อำนาจอิทธิพลทางการเมือง กระทำการทุจริต ต้องคิดคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะได้รับจากกฎหมายมากขึ้น ไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางกฎหมายในการหลบหนีคดี จนขาดอายุความได้อีกต่อไป
3. สร้างความยุติธรรมให้กับสังคมด้วยการสามารถยึดทรัพย์สิน เงินทอง ที่จำเลยทุจริตเอาไปกลับคืนมาเป็นของแผ่นดิน รวมถึงการเรียกค่าเสียหาย เมื่อมีการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยต่อเนื่องได้จนมีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งถือเป็นการสร้างความยุติธรรมให้กับสังคมส่วนรวม
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน