“อย่าไปเชียร์ ไม่ใช่เชียร์ม้า เชียร์มวย เชียร์ไม่ได้” บิ๊กตู่ แจงโยกย้ายทหาร
15 ส.ค. 2560 วาสนา นาน่วม โพข้อความระบุว่า ฟัง…นายกฯตู่ แจงการจัดทำโผโยกย้ายทหาร (แบบไม่อารมณ์เสีย ครั้งแรก)
บิ๊กตู่ ยันผมไม่เกี่ยวโผทหาร รับจากกห. ก็เตรียมทูลเกล้าฯ ชี้ยึดตามพรบ.กห. ผบ.เหล่าทัพ ลงนามทุกหน้า ไม่มีเปลี่ยนแปลง ยันยึดอาวุโส-ความเหมาะสม
“นายกฯบิ๊กตู่”ยัน ไม่ยุ่งเกี่ยวโผย้ายทหาร เพราะไม่ได้เป็น 7กรรมการกลาโหม ยันการโยกย้าย เป็นไปตามพรบ.กลาโหม มีการประชุมของคณะกรรมการฯที่มี รมว.กลาโหม เป็นประธาน แล้วกรรมการฯที่เป็น ผบ.เหล่าทัพ ประชุมแล้ว ก็จะลงนามในเอกสารกำกับทุกหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบ ในการจัดทำ ยันกองทัพมีหลักเกณฑ์ในการโยกย้าย ยึดอาวุโส และความเหมาะสม ยกตัวอย่าง คนจะเป็น ผบทบ. ตัองพิจารณาจาก รอง ผบ.ทบ. อัตราจอมพล ก่อน จากนั้น ก็พิจารณาประธานที่ปรึกษา ทบ. ที่ก็อัตราจอมพล. จากนั้น ก็ค่อยพิจารณา ผช.ผบ.ทบ.(1) และ(2) แล้ว จึงพืจารณา เสธ.ทบ. แต่หากใครอาวุโส แต่ไม่เหมาะสม ก็จะย้ายไปในทางข้าง ก็ได้ ศักดิ์ศรีเท่ากัน เผย เมื่อได้รับ โผทหาร มาแล้ว ก็จะเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ยันมีเวบาทัน เพราะภายในกย.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการจัดทำโผโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารปลายปี ว่า ขอให้ทุกคนรู้ว่าเป็นเรื่องของพ.ร.บ.กระทรวงกลาโหม ในการแต่งตั้งมีคณะกรรมการ 7 คน ประกอบด้วย ผบ.เหล่าทัพ โดยมีรมว.กลาโหมเป็นประธาน ถือเป็นคณะกรรมการรับผิดชอบแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล
เมื่อมีการแต่งตั้งพิจารณากันเรียบร้อยแล้วในชั้นคณะกรรมการก็จะส่งมีการตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อย ซึ่งผมไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการเลย ผมมีหน้าที่ในการนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งในการประชุมของคณะกรรมการแต่ละเหล่าทัพจะมีบัญชีเสนอขึ้นมา
ฉะนั้นเขามีสิทธิที่จะถกแถลงกันในที่ประชุมคณะกรรมการ และแต่ละหน่วยงานเขาก็มีคนที่เตรียมการไว้อยู่แล้ว จึงต้องมีการหารือร่วมกันถึงความเหมาะสม
แต่ทั้งหมดทุกใบ ทุกหน้า ผบ.เหล่าทัพจะต้องเป็นผู้ลงนามทั้งสิ้น ก่อนที่จะส่งมาถึงผม เพื่อจะติ๊กตรงท้ายจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ฉะนั้นคนเหล่านั้นรับผิดชอบอยู่แล้ว
ดังนั้นการแต่งตั้งคนไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด จะเอาคนนั้นคนนี้ก็ได้ กองทัพไม่ใช่แบบนั้น มันก็มีคนกลุ่มหนึ่ง ระดับหนึ่ง ที่พร้อมจะแต่งตั้งได้ ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่โตมาจากกองทัพ มากองรวมกันอยู่ข้างบน กว่าจะมาถึงยศพลเอก หรือยศพันเอกพิเศษ ก็ต้องมากองอยู่ที่กองทัพ เพราะตำแหน่งนายพลต้องแต่งตั้งโดยคณะกรรมการ ถ้าต่ำกว่านั้นไปเป็นเรื่องของแม่ทัพ ผู้การ
กองทัพบกก็แต่งตั้งรองนายพล โดยจะมีคณะกรรมการของกองทัพบกแต่งตั้งกันเอง รายชื่อที่เสนอมาในการแต่งตั้งหน่วยงานต้นสังกัดก็จะเป็นผู้เสนอ แม่ทัพรับมาจากผบ.พล ซึ่งมีคณะกรรมการระดับกองพลตั้งขึ้นมาอีก มันมีกรรมการทุกอัน
คนที่จะหลุดขึ้นมาข้างบน ก็ต้องมาดูอีกว่าจะเป็นผบ.ได้หรือไม่ ก็ต้องไปไล่ความอาวุโส 5 เสือกันอีก
คนที่จะเป็นผบ.คนแรกคือรองผบ.ทบ. เพราะตำแหน่งอัตราจอมพล กับประธานที่ปรึกษา อันนี้เป็นผบ.ได้ เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งรองผบ.แล้ว ก็ต้องไปพิจารณาผู้ช่วยผบ.คนที่ 1 ผู้ช่วยผบ.คนที่ 2 และเสนาธิการ ตามลำดับอาวุโส ซึ่งเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะพิจาณา
“ที่ผมพูดไม่ใช่ ผมไปยุ่งเกี่ยว แต่พูดเพราะเคยเป็นผบ.ทบ.มาก่อน ผมเคยเป็นคณะกรรมการ และเคยแต่งตั้งมา 4 ปีเต็มของผมที่เป็นผบ.ทบ. มีการประชุมร่วมกับรมว.กลาโหม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นรมว.กลาโหมอยู่ 1 ปี ผมก็ชี้แจงในที่ประชุมก็ฟังกันทั้งหมด
ฉะนั้นตำแหน่งหลักแบบนี้มันชี้กันไม่ได้นัก เพราะเป็นหัวใจของกองทัพ อย่าไปประเมินเอง บางทีท่านอาจจะรู้บ้างหรือไม่รู้บ้างว่าใครเป็นอย่างไร อย่าไปเชียร์ ไม่ใช่เชียร์ม้าหรือเชียร์มวย เชียร์ไม่ได้
แต่เห็นว่าใกล้จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวทุกเหล่าทัพก็จะเซ็นลงนามลงมา แล้วปลัดกระทรวงกลาโหมจะเซ็นลงมา และรมว.กลาโหมจะเสนอมาที่ผม ซึ่งผมจะทำหน้าที่ในการนำขึ้นทูลเกล้าฯให้ทันเดือนกันยายน คนใหม่จะได้เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เหมือนกันแต่งตั้งข้าราชการ เพียงแต่คนละแบบกัน
อันนี้มีคณะกรรมการผบ.เหล่าทัพทั้งหมด เพราะบางทีอาจมีการสลับย้ายที่ได้ เพราะศักดิ์ศรีเท่ากัน แต่ไม่ใช่ว่าจะเอาคนนี้ไป แล้วเอาคนนั้นขึ้น แต่เป็นการดูความเหมาะสม”
สำนักข่าววิหคนิวส์