เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊ก
ระบุว่า ขอแสดงความเห็นใจพี่น้องชาวสกลนครที่ประสบภัยน้ำท่วม บ้านเรือนรถราเสียหายย่อยยับโดยไม่มีการเตือน ในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและเป็นผู้อำนวยการคนแรกด้วย ก็ต้องถามรัฐบาลว่า ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในสมัยน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ผมเป็นผู้ประกาศเตือนว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ ผมโดนด่าอยู่สองวัน เพราะพูดแล้วน้ำไม่ท่วม แต่พอวันที่สามก็ท่วมใหญ่อย่างที่เห็น
ที่สกลนคร วันที่ 27 ก.ค. ฝนตก 129 มม. พอวันที่ 28 ก.ค. ตกหนักกว่าเดิมเป็น 170 มม. และตลอดอาทิตย์ฝนตกรวม 423 มม. ข้อมูลอย่างนี้ท่านต้องรู้ว่า น้ำจะท่วมแน่ ๆ ฝนตกลงบนเทือกเขาภูพาน ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าต้องไหลลงกลางเมืองสกลนครแน่ ๆ เส้นทางเดียวของการระบายน้ำก็คือ หนองหานไปลงน้ำก่ำต่อไปลงแม่น้ำโขง แต่ลำน้ำก่ำนั้นมีขนาดเล็กจึงระบายน้ำได้ช้า น้ำจึงท่วมกลางเมืองสกลนครอย่างที่เห็น
เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เคยมีโครงการพัฒนาหองหานและลำน้ำก่ำ ซึ่งผมนี่แหละเป็นผู้จัดการโครงการฯ ผมได้สร้างทางระบายนำ้และประตูน้ำใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งหากไม่มีโครงการนี้ วันนี้จะท่วมมากและยาวนานกว่านี้เยอะ ผมจึงอยากให้พวกท่านศึกษาของเดิมว่า ใครเขาทำอะไรไว้บ้าง และพยายามพัฒนาต่อไป ไม่ใช่ด่าคนอื่นว่า ไม่ทำอะไร ทั้งๆที่ตัวเองเอาแต่พูดไม่ได้ทำอะไรจริงจังสักอย่าง
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก ผมขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนว่า เหตุใดจึงไม่มีการเตือนภัยที่เหมาะสมและทันเวลา ขอให้รัฐบาลรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายของราษฎรที่จมน้ำไป และขอให้รัฐทบทวนว่า การย้ายสังกัดศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จากสำนักนายกรัฐมนตรี ไปสังกัดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการเตือนภัยที่ดีกว่าเดิมหรือเปล่า
ผมขอเตือนพวกท่านว่า ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เพิ่งจะเริ่มนะครับ (แต่ท่วมซะแล้ว) ประเทศไทยยังจะเจอมรสุมจากทะเลจีนตอนใต้อีกหลายลูก อย่าให้ท่วมเหมือนสกลนครอีกก็แล้วกัน สำหรับนนทบุรีบ้านผมปีนี้แปลกมาก คือน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงเร็วกว่าปกติ พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำ น้ำท่วมในทุกช่วง น้ำทะเลขึ้นเร็วกว่าเดิมหนึ่งเดือนเต็มๆ ผมจะถือว่า ผมเตือนท่านแล้วนะ หากน้ำท่วมเพราะท่านเพิกเฉย ผมจะฟ้อง ป.ป.ช. (กลัวไหมครับ)
ทีมข่าว สำนักข่าว Vihoknews