ฝนตกภูเก็ต ตลอดทั้งคืนถึงเช้า ทำน้ำระบายไม่ทันขังถนนกลางเมืองหลายสาย พ่อเมืองกำชับหน่วยงานเฝ้าระวังจุดเสี่ยง เตือนประชาชนติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
15 ส.ค. 2560 ไทยรัฐได้รายงานว่าตลอดทั้งคืนวันที่ 14 ส.ค.ต่อเนื่องจนถึงรุ่งสางวันที่ 15 ส.ค. 60 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังและน้ำรอการระบาย เช่น ถ.สุรินทร์ เกือบตลอดทั้งสายถึงสุรินทร์ซอย 2 (แวร์ซาย) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต มีน้ำท่วมขังสูงราว 40 ซม. เนื่องจากภายในซอยอยู่ระหว่างการขุดวางท่อระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำระบายไม่ทัน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ต ได้ปิดกั้นสุรินทร์ซอย 2 และถนนสุรินทร์ บางจุด โดยให้ผู้สัญจรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น พร้อมกับเร่งสูบระบายน้ำออกเป็นการด่วน แต่เนื่องจากยังมีฝนตกตลอดเวลาทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างลำบาก ขณะที่หน้าห้างซุปเปอร์ชีป สาขาใหญ่ ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ โดยเฉพาะถนนเทพกระษัตรี ขาออก มีระดับสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต เร่งประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้เปลี่ยนไปใช้ถนนสายอื่นแทน
ด้าน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ด้วย จ.ภูเก็ต ได้ติดตามลักษณะภูมิอากาศจากประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฉบับที่ 1 (37/2560) เรื่องฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 15-19 ส.ค. จึงสั่งการให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควร งดออกจากฝั่งในระยะนี้และขอให้ประชาชน ติดตาม ข้อมูลข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ หากประชาชนประสบภัยพิบัติขอให้แจ้งขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ โดยจังหวัดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ป้องกันและบรรเทาสาธารภัย เตรียมพร้อมกำลังพล เจ้าหน้าที่ เข้าประจำจุดอยู่เวรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์กู้ชีพ กู้ภัย เพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงที่อาจมีดินสไลด์ กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นกรณีพิเศษ.
Cr. ไทยรัฐ : https://www.thairath.co.th/content/1038127
สำนักข่าววิหคนิวส์