31 กรกฎาคม 2560 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานถ้อยแถลงของรัฐบาลจีนเตือนสหรัฐฯ ไม่ควรนำเรื่องการค้าทวิภาคีมาโยงกับปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาทวีตข้อความตำหนิปักกิ่งว่าไม่ช่วยบีบคั้นโสมแดง ทั้งที่เป็นฝ่ายได้เปรียบการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมากมาย
“เราคิดว่าปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือกับการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เป็นคนละเรื่องกัน” เฉียน เค่อหมิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงต่อสื่อมวลชนวันนี้ พร้อมสำทับว่าทั้ง 2 ประเด็นนี้ “ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และไม่ควรนำมาพูดรวมกัน”
“โดยทั่วไปแล้ว การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุน ก็ทำให้เราได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย จีนและสหรัฐฯ ต่างก็ได้กำไรมหาศาลจากความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน” เฉียน กล่าว
คำชี้แจงดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้ ทรัมป์ ซึ่งทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ (29) ว่า ตนจะไม่ยอมให้จีนทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ในเรื่องโสมแดงอีกต่อไป หลังจากที่เกาหลีเหนืองัดขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ออกมายิงข่มขวัญชาวโลกอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (28)
ทรัมป์ เรียกร้องหลายครั้งให้จีนใช้อิทธิพลบีบรัฐคอมมิวนิสต์โสมแดงให้ยอมลดละกิจกรรมนิวเคลียร์ แต่ปักกิ่งก็ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่าการ “เจรจา” เท่านั้นคือทางออก
ล่าสุด ผู้นำสหรัฐฯ พยายามโยงเรื่องที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าจีนเข้ากับนโยบายเกาหลีเหนือ หลังจากรัฐบาลโซลส่งสัญญาณว่าจะเร่งเดินหน้าติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) ให้เสร็จสมบูรณ์ แม้ต้องผิดใจกับจีนก็ตาม
“ผมรู้สึกผิดหวังกับจีนอย่างมาก ผู้นำที่โง่เขลาของเราในอดีตยอมให้จีนเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าปีละหลายแสนล้านดอลลาร์ แต่แล้วพวกเขากลับไม่ช่วยอะไรเราเลยในเรื่องเกาหลีเหนือ ดีแต่พูดเท่านั้น” ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์
“เราจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกต่อไป จีนสามารถแก้ปัญหานี้ได้ง่ายๆ!”
วอชิงตันอ้างว่าจีนใช้นโยบายกีดกันการเข้าถึงตลาดจนทำให้การค้าระหว่าง 2 ชาติขาดความสมดุล ดังจะเห็นได้จากการที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าจีนถึง 309,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ขณะที่ปักกิ่งก็กล่าวโทษนโยบายจำกัดการส่งออกสินค้าไฮเทคของสหรัฐฯ ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหานี้
ฐิติพันธุ์ คุณดิลกมณี
สำนักข่าววิหคนิวส์