ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » ​#ลึก…!! แม่ทัพภาค4ยิ้มสู้โจรใต้แม้ขู่ตัดหัว

​#ลึก…!! แม่ทัพภาค4ยิ้มสู้โจรใต้แม้ขู่ตัดหัว

7 July 2017
576   0

       พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุคชื่อว่า Suding Su Patani ได้โพสต์ภาพของ พล.ท.ปิยวัฒน์ ลงบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แล้วเขียนว่า “ประกาศตัดหัวให้ 1,000,000” ว่า ตนคิดว่าขบวนการพวกเขา น่าจะมีความระส่ำระส่าย ไม่สามารถควบคุมกันได้ ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ด้านเศรษฐกิจ และมวลชน จึงหันมาโพสต์ข้อความแบบนี้ขึ้นมา

พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่าขณะเดียวกันเงิน 1 ล้านบาทถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก สำหรับพวกขบวนการที่แอบอยู่บนภูเขา จึงคิดว่าการที่โพสต์ประกาศค่าหัวตนนั้น เป็นเพียงการลดปมด้อยของพวกเขา ที่ไม่มีงาน ไม่มีอาชีพ อีกทั้งก็ไม่มีใครสนับสนุนเงินทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภัยแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ก็ไม่ให้ความสนับสนุน เช่นกัน ดังนั้นเงิน 1 ล้านบาท จึงมีค่า และมีความหมายสำหรับพวกเขา

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อว่าความเป็นจริงประชาชนในพื้นที่ เขาปฏิเสธการใช้ความรุนแรง ซึ่งพวกเขามองว่าเงิน 1 ล้านบาท ไม่มีค่าสำหรับเขา เพราะว่าพี่น้องประชาชนมีอาชีพสุจริต มีรายได้ และมีงานทำกับโครงการของรัฐบาล จึงทำให้มีความมั่นคั่ง และยั่งยืน อาทิ มีโครงการเลี้ยงไก่เบตง เลี้ยงปลากือเลาะ และเลี้ยงกบภูเขา เป็นต้น ถือเป็นโครงการที่ดีในการสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนตั้งใจประกอบอาชีพ เชื่อว่า 1 ปีต้องมีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทแน่นอน
“ผมคิดว่าคนโง่อยู่ที่ปาก คนฉลาดอยู่ที่ใจ ซึ่งคนที่เขียนเรื่องนี้มาบ่งบอกอยู่แล้วว่ามีความคิดอย่างไร เงิน 1 ล้านบาทไม่ต้องมาทำอะไรผมหรอกครับ ไปขโมยนกเขา นกกรงหัวจุกเถอะ 2 ตัวก็ได้ 2 ล้านแล้ว ไม่ต้องเสี่ยงมาสังหารผม” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวผู้สื่อข่าวถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้น จะเพิ่มมาตรรักษาความปลอดภัยให้ตนเอง หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่าทำงานตามปกติไม่มีอะไร เรื่องนี้ถ้ามองอีกมุมคิดว่าดีเสียอีกให้เขามาหาเรา เราจะได้ไม่ต้องไปหาเขา

เมื่อถามว่าแล้วเชื่อมโยงกับโครงการพาคนกลับบ้านหรือไม่ พล.ท.ปิยวัฒน์ บอกว่าไม่เกี่ยวกับโครงการนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ เขาไม่ต้องการความรุนแรง แต่ต้องการความสงบ ซึ่งการนำโครงการต่างๆลงไปในพื้นที่ ทำให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงการพัฒนา โดยใช้หลักมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน.

ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน