31 ก.ค.60 กองทัพสหรัฐฯ เผยทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ในอะแลสกาได้เป็นผลสำเร็จอีกครั้ง โดยสามารถยิงสกัดทำลายขีปนาวุธพิสัยกลางในสถานการณ์จำลองลงได้ นอกจากนี้ยังได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียง บี-วันบี (B-1B) จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินเหนือคาบสมุทรเกาหลี เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพทางการทหาร ตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปซึ่งสามารถโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 28 ก.ค.)
BBC – เครื่องบินทิ้งระเบิดสองลำของสหรัฐฯ ดังกล่าว ออกเดินทางมาจากฐานทัพที่กวม โดยมีเครื่องบินรบของกองทัพเกาหลีใต้และกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่นเข้าร่วมสมทบในการบินเหนือคาบสมุทรเกาหลีครั้งนี้ด้วย ซึ่งทางการญี่ปุ่นแถลงว่าเป็นการฝึกซ้อมดำเนินปฏิบัติการทางอากาศร่วมกับชาติพันธมิตร
พลเอกเทอร์เรนซ์ เจ. โอชอห์เนสซี ผู้บัญชาการกองกำลังทางอากาศภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐฯ แถลงหลังปฏิบัติการดังกล่าวว่า เกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยต่อเสถียรภาพของภูมิภาคที่ต้องจัดการโดยด่วนที่สุด และหากมีคำสั่งลงมาให้ออกปฏิบัติการ กองทัพสหรัฐฯ พร้อมจะโจมตีตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยพลังทำลายล้างอย่างเต็มที่ ในเวลาและสถานที่ที่ได้กำหนดเอาไว้
นางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติระบุว่า สหรัฐฯ จะไม่ยื่นขอให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อออกมติคว่ำบาตรหรือประณามเกาหลีเหนืออีก เพราะไม่เกิดประโยชน์อันใดทั้งสิ้น
“การออกข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ไม่ช่วยให้แรงกดดันจากนานาชาติต่อเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนั้น ช่างไร้ค่า ที่จริงแล้วมันแย่กว่าไม่ทำอะไรด้วยซ้ำไป เพราะจะเป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้นำเผด็จการของเกาหลีเหนือว่า ประชาคมนานาชาติไม่ต้องการจะท้าทายเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง” นางเฮลีย์กล่าว
นางเฮลีย์ยังกล่าวย้ำต่อจีนว่า ถึงเวลาแล้วที่จีนจะต้องตัดสินใจว่าจะเต็มใจดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเกาหลีเหนือหรือไม่ เพราะเวลาสำหรับการเจรจาพูดคุยนั้นหมดลงแล้ว
เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงข้อความทางทวิตเตอร์ในทำนองตัดพ้อต่อว่าจีนเรื่องการแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าผิดหวังอย่างยิ่งที่จีนไม่ยอมช่วยยับยั้งพฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง
ทีมข่าว สำนักข่าววิหคนิวส์