วันนี้ ( 21 ส.ค.) สำนักข่าวตรงประเด็นรายงานว่านายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปว่า ต้องถือได้ว่าเป็นคณะกรรมการปฏิรูปที่มีแรงกดดันตั้งแต่เริ่มต้นประกาศรายชื่อออกมา มีการวิพากษ์ วิจารณ์เรื่องตัวบุคคลค่อนข้างมาก จนนายกรัฐมนตรีก็ออกมายอมรับว่าได้ทาบทามคนดี คนเก่ง มาช่วยเป็นกรรมการปฏิรูปก็ถูกปฏิเสธ
ถึงแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็ยังฝากความหวังอยากเห็นผลงานการปฏิรูปที่เป็นชิ้นเป็นอัน สามารถทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปประสบผลสำเร็จควรมีการดำเนินการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. ควรกำหนดวิสัยทัศน์ และหลักการของการปฏิรูปทุกด้านที่ชัดเจนเพื่อให้มีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน อันจะทำให้การปฏิรูปสัมฤทธิ์ผลเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ถ้าไม่มีวิสัยทัศน์ และหลักการที่ชัดเจน การปฏิรูปก็จะสะเปะสะปะอาจมีเพียงข้อเสนอให้ปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อยๆ ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดผลจากการปฏิรูปอย่างแท้จริง
2. ควรเปิดโอกาสให้มีกลไกที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูป เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกับการปฏิรูป จะทำให้เกิดความร่วมมือช่วยกันผลักดันให้การปฏิรูปสำเร็จ
3. ผู้มีอำนาจทั้ง คสช. และรัฐบาลควรมีความจริงใจที่จะนำข้อเสนอไปปฏิรูปให้เกิดผลจริง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา แทบไม่มีการปฏิรูปให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง
นายองอาจ กล่าวว่าถ้าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมีความตั้งใจที่จะปฏิรูปอย่างแท้จริงก็เชื่อว่าน่าจะทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติตามที่ทุกฝ่ายคาดหวังได้ในที่สุด
สำนักข่าววิหคนิวส์