สำนักข่าวอิสรา-เปิดรายละเอียดรถ 111 คัน ในบัญชีประมูลขายทอดตลาด ฉบับพันเอก ขส.ทบ. พบเป็นเก๋ง 12 ยี่ห้อดังอื้อ เบนซ์ อัลฟ่าโรมิโอ แฮมเมอร์ โตโยต้า เลกซัส แลนด์ ครุยเซอร์ Alpard ยังมี ปมถูกสอบส่อสวม?
กรณีการทำบัญชีรถประมูลขายทอดตลาดของ กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ที่ปรากฎชื่อ พันเอก ภพกฤต พันธ์ยศ เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยื่นเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดเป็นเท็จ รวมทั้งสิ้น 9 ฉบับ เป็นรถจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน และ ทาง ขส.ทบ. และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ลงนามในเอกสารเท็จและผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากพบว่าอาจมีการสอดไว้เอารถที่ไม่มีใช้ในหน่วยงาน มาสวมในบัญชีรถประมูลของ ขส.ทบ. จำนวน 650 คัน ได้สั่งอายัดการจดทะเบียนรถในกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรารายงานเมื่อ 30 มิ.ย.2560
ต่อมาสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า 1 ในบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดที่ถูกระบุว่าเป็นบัญชีเท็จหรือบัญชีผี ( ขส.ทบ. แจ้งว่าเป็นการลงนามทำบัญชีรถขึ้นมาเองของ พ.อ.คนดังกล่าว ซึ่งไม่มีอำนาจลงนาม) จำนวน 111 คัน (จากจำนวน 1,136 คัน) มีชื่อ นายธนโชติ ดูเบย์ เป็นผู้ชนะการประมูล วงเงิน 4,549,500 บาท โดย กองคลัง ขส.ทบ. ออกใบเสร็จรับเงินมีชื่อ พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ รองผอ.กค. ขส.ทบ. เป็นผู้รับเงิน (อ่านประกอบ:เปิดใบเสร็จ! พ.อ.รับเงินสด 4.9 ล. ทำบัญชีประมูลขายรถ ขส.ทบ.ลอต 111 คัน)
กรณีของบัญชีรถ 111 คัน ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบบัญชีรายละเอียดรถชำรุดที่มีการขายทอดตลาดพบว่า เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมด จำแนกตามยี่ห้อได้ดังนี้
1. ยี่ห้ออัลฟ่า 3 คัน (โรมิโอ)
2. ยี่ห้อออดี้ 1 คัน (A 5/S5/RS 5)
3.ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ 24 คัน
4.ฟอร์ด 1 คัน
5.ฮัมเมอร์ 5 คัน
6.มาสด้า 1 คัน
7.มิตซูบิชิ 11 คัน (ปาเจโร,JEEP)
8.นิสสัน 6 คัน (SKYLINE,ELGRAND)
9.ซุบารุ 1 คัน
10.ซูซูกิ 4 คัน (Wagon,JIMMY)
11.โตโยต้า 35 คัน (Alpard ,Lexus, แลนด์ ครุยเซอร์, เมกาครุยเซอร์,PRADO,BLIZZARD,HILUX 4*4)
12.แลนด์โรเวอร์ 1 คัน
รวม 90 คัน อีก 21 คันไม่มีข้อมูล
สำหรับขั้นตอนสวมทะเบียนรถยนต์ที่ใช้การประมูลรถยนต์ชำรุดของ ขส.ทบ. เป็นฉากบังหน้า ตามข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในการแถลงข่าวของอธิบดีกรมการขนส่งทางบกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 มี 5 ขั้นตอน
1.กรมขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ยื่นบัญชีรถประมูลขายทอดตลาด โดยระบุชนิดรถ เลขเครื่องยนต์ เลขตัวรถและรายละเอียดต่างๆ (โดยปลอมแปลงเอกสารทั้งชุด)
2.กรมขนส่งทางบก (ขบ.) รับหนังสือแล้วส่งกลับให้ ขส.ทบ.ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง ตามระเบียบราชการ
3.ขส.ทบ. ส่งหนังตอบกลับเพื่อยืนยันความถูกต้อง (มิจฉาชีพจัดตั้งขบวนการรอรับเอกสารและตอบกลับ)
4.ขบ.ลงรับและควบคุมบัญชีรถและเครื่องยนต์ ตามรายละเอียดที่ได้รับการยืนยัน จากนั้นก็รับรองเอกสารการส่งบัญชีรับและจำหน่าย
5.ผู้ชนะการประมูล นำเอกสารหลักฐานจาก ขบ. ไปดำเนินการทางทะเบียนและนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดตามที่แจ้งตัดบัญชี
ณ ขณะนี้ไม่มีข้อมูลว่าบัญชีรถ 90 คันในจำนวน 111 คันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกนำมาสวม หรือไม่ แต่น่าสังเกตว่า เป็นรถยนต์นั่งทั้งหมด และยี่ห้อ รุ่นต่างๆ ไม่ค่อยได้เห็นใน ขส.ทบ.