.
ปัญหาคลองแม่ข่าเน่าเสีย ที่เป็นปัญหามายาวนาน นานเสียจนจำไม่ได้ว่ามันเริ่มเน่าเมื่อไหร่ เอาเป็นว่า เคยสอบถามใคร ๆ ที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ ต่างก็บอกว่า “เน่ามาเมินแล้ว” (เมิน:นาน) และจำไม่ได้อีกว่า นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นาย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ผ่านมากี่ยุคกี่สมัย กี่คน
.
จนบางคนเสียชีวิตไปแล้วหลายคน
.
ยังไม่ต้องนับเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ไม่ว่า กรมเจ้าท่า ทรัพยากรธรณีและสิ่งแวดล้อม ชลประทาน ฯลฯ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาสัมผัสปัญหานี้กันแบบผิวเผินตลอดมา
.
ปัญหานี้ ดูเหมือนจะร้อนแรงที่ถูกกดดันจากประชาชน และท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ที่ไม่มีฝนตกมาเพิ่มปริมาณน้ำในคลองแม่ข่า ในขณะที่การปล่อยน้ำเสียก็ยังมีปริมาณเหมือนเดิม เพราะตลอดลำน้ำแม่ข่า จะมีแต่น้ำเน่าสีดำคล้ำ ส่งกลิ่นเหม็นตลอด และส่งผลกระทบต่อประชาชาชนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำที่รับผลกระทบอย่างเต็ม ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหานี้ ทั้งเป็นการประชุมแบบวาระปกติ วาระเร่งด่วน และวาระไฟลนก้น(เพราะถูกร้องเรียนหรือถูกเดินขบวนประท้วง) และการประชุมแต่ละครั้ง หากจะไล่เลียงผู้ที่เข้าร่วมประชุม ล้วนแต่มีส่วนราชการ มีผู้เชี่ยวชาญ มีนักวิชาการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องถิ่น ตลอดถึงประชาชนที่มีจิตอาสา
.
ดูดีทีเดียว
.
เพราะแต่ละส่วน แต่ละท่าน ล้วนมีอำนาจในการแก้ปัญหา และยังมีนักวิชาการคอยให้คำแนะนำที่ดีอีกด้วย
.
และผลของการประชุม (เกือบทุกครั้ง) ก็จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกันเกือบทุกครั้ง คือ มีการพูดถึงปัญหา ว่าน้ำในคลองแม่ข่าเน่าอย่างไร มีขยะอย่างไร (มีรูปประกอบ) กลิ่นเหม็นอย่างไร (แต่ไม่มีกลิ่นประกอบ) แม้แต่จำนวนผู้ประกอบการและจำนวนครัวเรือนที่ปล่อยน้ำเสียลงคลองแม่ข่า มีจำนวนเท่าไร ชื่อไรมั่ง และยังสามารถสรุปว่าจะแก้กันอย่างไร แล้วก็จบลงที่ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันก่อน เพราะงบประมาณไม่มี
.
หลังจากนั้น ก็จะเห็นผู้บริหารท้องถิ่น หามรุ่งหามค่ำ ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน ออกเก็บขยะในคลอง แล้วออกสื่อเท่านั้นจริง ๆ
.
วันนี้ มีคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่นจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงทุนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เชิญผู้ว่าฯ เชิญนายกเทศมนตรี กว่า 5 แห่ง หัวหน้าส่วนราชการ อีกเป็นโหล มาประชุมเพื่อถกปัญหานี้ที่ศาลากลางจังหวัด พร้อมกับเดินทางไปดูสภาพปัญหาของจริง
.
แล้วก็สรุปว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบทำโครงการเพื่อแก้ปัญหานี้ภายในวันที่ 15 พย.นี้ ก่อนที่คณะกรรมาธิการชุดใหญ่จะเดินทางมาดูงานอีกครั้ง
.
แม้ในที่ประชุมจะมีการพูดถึงตัวเลขงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อการนี้ แต่ก็เป็นงบประมาณประจำปี 2562 โน่น แถมยังเป็นงบประมาณในการศึกษาสำรวจความเป็นไปได้และวางแผนเพื่อแก้ปัญหานี้ เท่านั้น
.
ได้แค่นี้จริง ๆ
.
ชาติ มาลัย
สำนักข่าววิหคนิวส์