พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ สตง. เปิดเผยชื่อ อปท. ที่ใช้งบขนมวลชนเข้ากรุงเทพให้กำลังใจ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เพราะมองว่า ไม่ยุติธรรมกับ อปท. ทั่วประเทศ พร้อมแฉอีกความไม่โปร่งใสระบายข้าวค้างสต็อก ชี้บริษัทขายปุ๋ยที่รับซื้อขาดคุณสมบัติเข้าประมูล เชื่ออาจเป็นบริษัทนอมินี จัดซื้อข้าว
15 สิงหาคม พ.ศ. 2560 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการระบายข้าวของภาครัฐของพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีความไม่โปร่งใสในการออกหนังสือค้ำประกันให้บริษัทบริษัทผลิตและจำหน่ายปุ๋ย ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวสารกับรัฐ ตามโครงการข้าวสารในสต็อกของรัฐ เข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 1/2560 ว่า บริษัทผลิตปุ๋ยดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติเพียงพอในการเข้าร่วมประมูล และไม่น่ามีความสามารถที่จะออกหนังสือค้ำประกันเองได้
ข่าวช่อง 8 – เพราะจากงบดุลปี 2559 พบว่ามีสินทรัพย์เพียงแค่ 4 ล้าน 5 แสนบาท ขณะที่ผลประกอบการทั้งปีขาดทุนอยู่ที่ 6 แสน 4 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังพบพิรุธว่าผู้ที่ออกหนังสือค้ำประกันให้กับบริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับบริษัท เพราะไม่ได้เป็นทั้งผู้ถือหุ้นหรือกรรมการของบริษัทเลย ดังนั้นถ้าบริษัทนี้ผลิตปุ๋ยเพื่อจำหน่ายจริง ขอให้ชี้แจงว่า ผลิตปุ๋ยยี่ห้ออะไร วางจำหน่ายที่ไหน และกระสอบละเท่าไร
ด้านนายสุรสาล ผาสุข อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บริษัทนี้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเข้าประมูลได้ ทำให้ข้อสงสัยว่า บริษัทนี้เป็นเพียงนอมินีจัดซื้อข้าวสารหรือไม่ จึงขอเรียกร้องผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเอง โดยอย่าใช้ข้อมูลเดิมที่อ้างว่า เคยลงพื้นที่กับคณะทำงานชุดของหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มาแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้เจตนาจะผูกโยงเรื่องนี้กับเรื่องอื่นแต่อย่างใด ทั้งนี้ภายในสัปดาห์นี้พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบผู้ว่า สตง. เพื่อสอบถามความคืบหน้าถึงความไม่โปร่งใสในโครงการดังกล่าว
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า จะตรวจสอบการใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการนำประชาชนมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.ต่างจังหวัด ไม่เชื่อว่า จะมีใครทำเช่นนั้น เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ส่วนกรณีที่จะมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ถือเป็นเรื่องความผูกพัน ความรักใคร่และความสงสารอดีตนายกฯ อีกทั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างท่วมท้นอีกด้วย
ขณะที่ นายสุรสาล กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อปท.ถูกควบคุมการใช้งบประมาณอย่างเข้มงวด ทุกวันนี้ทุกคนระวังตัว จึงเชื่อว่า ไม่กล้านำงบประมาณมาใช้ประโยชน์แน่นอน จึงขอเรียกร้องให้ สตง.เปิดเผยชื่อ อปท.ที่อ้างว่า นำงบประมาณนำมวลชนมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ออกมาให้ชัดเจน อย่าทำให้สังคมไขว้เขว เพราะไม่ยุติธรรมกับ อปท.ทั่วประเทศ และทำให้เกิดความเสียหายกัยอปท.
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงประเด็นการมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ และความขัดแย้งภายในพรรคว่า ความเห็นที่แตกต่างภายในพรรค ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะสมาชิกต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค
การเลือกผู้นำพรรคก็จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค แต่ปัจจุบันพรรคการเมือง ยังถูกห้ามทำกิจกรรม ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเรียกประชุมสมาชิก เพื่อเลือกผู้นำพรรคได้ ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลยังไม่เปิดให้ทำกิจกรรมพรรคการเมือง เพราะถือเป็นความหวาดระแวงจนเกินไป
ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่า พรรคจะไม่มีผู้นำที่มาจากตระกูลชินวัตรนั้น ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจเลือกหัวหน้าพรรค เพราะพรรคยังมีบุคลากรที่มีศักยภาพจำนวนมาก
สำนักข่าววิหคนิวส์