“แม่เลี้ยงติ๊ก-ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.ดังแพร่” แจงยิบ กระแสข่าวทายาทนักการเมืองดันออกโฉนดทับที่ สค.1 ชาวบ้านจนถูกวิจารณ์ยับ ยันซื้อที่จากแบงก์กสิกร เชื่อเอกสารสิทธิ์ไม่ปลอม คาดคนชักใยปูดข่าวหวังผลทางการเมือง
manager – วันนี้(14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีชาวบ้าน ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ขอพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินของตนเอง หลังมีนักการเมืองเข้ามาครอบครอง ออกโฉนดทับที่ ส.ค.1 ที่ชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวใช้เป็นที่ทำกินมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย จนกลายมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลฯ
โดยนางนิสาชล ในเวียง อายุ 45 ปี มีที่ดินในกลุ่มนี้อยู่ 6 ไร่ มีเอกสารสิทธิ์ที่ถือครองมาแต่อดีต ได้นำหลักฐานเอกสารสิทธิ์ในที่ดินของตนสู่การรังวัดเดินสำรวจออกโฉนด ในปี 2553 แต่ไม่ได้รับการออกโฉนดจากกรมที่ดิน แต่ขณะนี้ที่ดินของตนเอง กลับกลายเป็นที่ดินของทายาทนักการเมือง นำมาออกโฉนด
“พวกเราได้ทำการคัดค้านแล้ว เพราะยังคงทำกินในที่ดินผืนนี้อยู่ตลอดมา หลังจากที่ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่ดินออกมาสำรวจข้อเท็จจริง แต่ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน ซึ่งถ้าตนต้องออกจากที่ดินผืนนี้ไปคงไม่มีที่อยู่แล้ว”
ด้านนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก อดีต ส.ส.จังหวัดแพร่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องราวของที่ดินแปลงที่มีการร้องเรียนว่า นักการเมืองเข้าไปออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินชาวบ้าน และไล่ชาวบ้านออกจากที่ทำกินนั้น ตนได้ทราบข่าวแล้ว และเป็นพื้นที่ในครอบครองของตน
แม่เลี้ยงติ๊ก ยืนยันว่า ตนไม่ได้ผลักดันวิ่งเต้นให้ออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินชาวบ้าน แต่ที่ดินแปลงนี้ ได้ซื้อมาจากการขายทอดตลาดของธนาคารกสิกรไทย สาขาแพร่ ในปี 58 ซึ่งตนเชื่อว่า ที่ดินที่มาจากธนาคาร ต้องมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ส่วนเหตุการณ์ก่อนซื้อต่อจากธนาคาร ตนไม่ทราบว่า ใครทำอะไร อย่างไร
นางศิริวรรณ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้เป็นเพียงความเดือดร้อนของประชาชน แต่อาจเป็นปัจจัยทางการเมือง ที่คนระดับผู้นำใน ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ สร้างประเด็นให้เกิดขึ้น เพื่อหวังผลทางการเมืองก็เป็นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ เป็นฐานคะแนนสำคัญของกลุ่มการเมืองตน
“ธนาคารคงไม่เอาเอกสารสิทธิ์ปลอมมาขายให้ตนแน่นอน เมื่อซื้อเสร็จได้มอบให้ลูกชายคือนายปารย์ ปราศจากศัตรู เป็นผู้ครอบครอง ก็ยืนยันให้มีการตรวจสอบ ให้ทางศูนย์ดำรงธรรมควรทำงานอย่างตรงไปตรงมา ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน